นายกอบเกียรติ บุญธีรวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือAEC (เดิมคือ บล.ยูไนเต็ด หรือ US) กล่าวว่า บริษัทฯมีความพร้อมกลับมาดำเนินธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ได้ในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ โดยขณะนี้ได้รับการอนุมัติจากทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เรียบร้อยแล้ว
“บริษัทได้รับอนุญาตให้เริ่มประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจากก.ล.ต.แล้ว เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา และได้รับความเห็นชอบให้เริ่มส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในฐานะสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์และตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป โดยบริษัทฯเริ่มให้ลูกค้าเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาล่วงหน้าแล้ว และมีแผนงานที่จะเปิดสาขาเพิ่มเติมทั้งในกรุงเทพฯและในเขคภูมิภาคจำนวนประมาณ 4 สาขา ภายในต้นปี 2557 นี้ เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าได้ทั่วถึง”
เขากล่าวต่อว่า บล.เออีซี มีความพร้อมอย่างมาก ในทุกๆ ด้าน เริ่มจากส่วนของบุคลากร ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่การตลาด ทีมงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ และทีมวาณิชธนกิจที่มีประสบการณ์และความชำนาญในธุรกิจหลักทรัพย์เป็นอย่างดี เพื่อรองรับงานที่เพิ่มขึ้นในอนาคต และในส่วนของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก็สามารถสนองตอบต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน
ทั้งนี้ บล.เออีซี ตั้งเป้าที่จะครองส่วนแบ่งการตลาด หรือ มาร์เก็ตแชร์ ในประเทศไทยอยู่ในอันดับ TOP5 ภายใน 3ปีข้างหน้า
“ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับมาดำเนินธุรกิจของ บล.เออีซี ในฐานะโบรกเกอร์ในประเทศไทย และเป้าหมายในอนาคตได้มองไกลไปถึงการให้บริการในระดับภูมิภาค ไม่ใช่แค่ธุรกรรมการซื้อขายหุ้น แต่เป็นการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรเพื่อรองรับกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย โดยเฉพาะเมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ซึ่งจะทำให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นจุดสนใจของทุนจากทั่วโลก เพราะปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปคงต้องใช้ระยะเวลาในกาารแก้ไข ซึ่งตรงนี้เองจะเป็นการเปิดโอกาสที่จะทำให้เกิดธุรกรรม โดยเฉพาะด้านวาณิชธนกิจ การเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ปรึกษาการลงทุนและด้านอื่นๆ อีกมาก พร้อมคาดว่าภายในปี 2557 เราจะสามารถดำเนินธุรกิจให้ครอบคลุมทุกธุรกรรมทางด้านตลาดทุน"
นายกอบเกียรติ กล่าวต่อในช่วงท้ายว่าทีมบริหารของ บล.เออีซี ตั้งเป้าหมายที่จะให้บริษัทแห่งนี้เป็นโบรกเกอร์ระดับภูมิภาคเชื่อมการลงทุนระหว่างภูมิภาคมาสู่ประเทศไทย สำหรับผู้ประกอบการต่างชาติที่ต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และให้คำปรึกษาสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยการขยายตัวทางธุรกิจในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการบริษัท และผู้ทรงวุฒิที่ปรึกษาของบริษัท ตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศและภูมิภาค ทั้งกลุ่มลงทุนและกลุ่มการเงิน