นายทรงวุฒิ อภิรักษ์ขิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GBX แนะนำกรอบการลงทุนราคาทองคำในสัปดาห์นี้ (7 — 11 ตุลาคม 2556) ว่า โกลเบล็ก ให้กรอบราคาทองคำที่ $1,277-1,351/Oz หรือ 18,960-20,050 บาท/บาททองคำ(อ้างอิงค่าเงินบาทที่ 31.30 บาท/$) โดยในสัปดาห์นี้อาจมีการประกาศยอดจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงานหากสภาคองเกรสอนุมัติแผนการใช้จ่ายก็จะทำให้หน่วยงานรัฐบาลกลับมาเปิดดำเนินงานอีกครั้ง
โดยจะเห็นได้จากราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ $25.48/Oz หรือคิดเป็น 1.90% ปิดที่ระดับ $1,315/Oz (10.00น. 4/10/56) โดยมีจุดต่ำสุดที่ $1,277.50/Oz และมีจุดสูงสุดที่ $1,351.55/Oz ซึ่งราคาทองคำปรับตัวลงก่อนเนื่องจากดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.2 ในเดือนกันยายน จากระดับ 55.7 ในเดือนสิงหาคม นับเป็นการขยายตัวในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบเกือบสองปีครึ่งแสดงถึงเศรษฐกิจเริ่มกลับมาขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับสหรัฐฯประกาศปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาล หลังจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับร่างกฎหมายงบประมาณฉุกเฉิน และตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนจาก ADP ระบุว่า ภาคเอกชนสหรัฐจ้างตำแหน่งงานเพิ่ม 166,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ประเมินว่าภาคเอกชนสหรัฐฯจะจ้างตำแหน่งงานเพิ่ม 178,000 ตำแหน่ง และการประกาศดัชนี ISM ภาคบริการเดือนกันยายนลดลงมากกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 57.4 คอยหนุนต่อราคาทองคำเพิ่มเติม
“อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังวิตกกังวลต่อรายงานของฟิทช์ เรทติ้งส์ ที่ระบุว่า ราคาทองคำอาจจะไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนักในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากแนวโน้มในช่วงที่ผ่านมานั้น ทองคำถูกใช้เป็นเครื่องมือด้านการเงินและการถือครองเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเงินเฟ้อ มากกว่าที่จะเป็นการซื้อขายที่เกิดจากอุปสงค์ที่แท้จริง” นายทรงวุฒิ กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยดังกล่าวในข้างต้น ทางโกลเบล็ก แนะนำให้เล่นเก็งกำไรในกรอบที่ $1,277-1,351/Oz หรือ 18,960-20,050 บาท/บาททองคำ(อ้างอิงค่าเงินบาทที่ 31.30 บาท/$) และมีการกำหนดจุดตัดขาดทุนหากผิดทาง เนื่องจากราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นหรือลงได้แรงหลังพักตัวในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ ทางโกลเบล็ก ยังแนะนำนักลงทุนจับตาแนวโน้มทิศทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ อาทิ ผลผลิตมวลรวมยูโรโซน ,ยอดดุลการค้าสหรัฐฯ ,ยอดจ้างงานอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ,อัตราว่างงานสหรัฐฯ ,FOMC Meeting Minutes ,ประชุมธนาคารกลางอังกฤษ ,ยอดผู้ขอรับสวัสดิการสหรัฐฯ ,ยอดค้าปลีกพื้นฐาน(MoM) ,ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ ,คาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์โกลเบล็ก ประเมินแนวโน้มกรอบการลงทุนในตลาดหุ้นไทย สัปดาห์นี้ว่า สัญญาณการแกว่งตัวในระยะสั้น ดัชนีมีการแกว่งตัวแคบๆ วอลุ่มลดลงกว่าครึ่งแสดงถึงการขายทำกำไรระยะสั้นออกมาบางส่วน ในขณะที่ดัชนีไม่มี New low และประคองตัวปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันได้ หากช่วงนี้ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาทำ New low หรือปิดต่ำกว่า 1418 จุดอีก จึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ 1440 จุดต่อไป
ขณะที่ ดัชนีในระยะกลาง มีแนวโน้มดีดกลับขึ้นหลังจากหลุดลงไปต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 สัปดาห์ แต่ไม่หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 75 วัน หากสัปดาห์นี้ดัชนีไม่ถอยกลับลงมาปิดต่ำกว่า 1400 จุดอีก คาดดัชนีลุ้นดีดกลับแถวๆ แนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 25 สัปดาห์ที่ 1467-1468 จุด ผ่านได้ลุ้นขึ้นต่อจุดสูงสุดเดิมที่ 1494 จุดต่อไป
นอกจากนี้ บล.โกลเบล็ก แนะนำลงทุนในหุ้น TRUE โดยมองว่าระดับราคาดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบ 7 วัน หากราคาไม่ถอยกลับลงมาปิดต่ำกว่าแถวๆ 8.40 บาท โอกาสที่ราคาหุ้นมีลุ้นดีดกลับต่อแถวๆ 8.75 บาท ก่อนขยับขึ้นทำ New high ต่อแถวๆ 8.95-9.15 บาท ขณะนี้หุ้น LIVE เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่น่าจับตา เนื่องจากระดับราคาดีดกลับขึ้นมาทำ New high ในรอบ 1 สัปดาห์ โดยมีวอลุ่มเพิ่มขึ้น หากราคาไม่ถอยกลับลงมาปิดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 75 วัน ที่ 0.48-0.47 บาท ราคามีลุ้นขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 0.50-0.51 บาทต่อไป
และสุดท้ายแนะนำหุ้น CCP เนื่องจากระดับราคาดีดกลับขึ้นมาทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบ 7 วันอีกครั้ง โดยมีวอลุ่มเพิ่มขึ้น และหากราคาไม่ถอยกลับลงมาปิดต่ำกว่า 6.30-6.25 บาท หุ้นมีลุ้นผ่านแนวต้านที่ 6.50 บาทขึ้นทดสอบแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันแถวๆ 6.85-6.90 บาท