สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มุ่งพัฒนาอิเล็กทรอนิกส์ไทยสู่สากล

พุธ ๐๔ พฤษภาคม ๒๐๐๕ ๑๓:๕๘
กรุงเทพฯ--4 พ.ค.--รี้ดเทรดเด็กซ์
สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ต้องการสนับสนุนการพัฒนาด้านการทดสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการกำหนดคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ให้ตรงตามมาตรฐานสากล เพื่อสนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์ที่ออกจากโรงงาน SME ของไทยจะได้มีการพัฒนาคุณภาพเพิ่มขึ้น
นายจารึก เฮงรัศมี ผู้อำนวยการสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Electrical and Electronics Institute) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กำลังพยายามปรับบทบาทให้เป็น Intelligent Unit ที่พร้อมให้คำตอบทุกเรื่องเกี่ยวกับไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ให้เป็นแหล่งข้อมูลทางด้านนี้ และ นอกจากนี้ยังจัดให้เป็น Service Provider เช่น การให้บริการเรื่องการทดสอบ การบริการเรื่องระบบธุระกรรมการผลิต เป็นต้น โดยได้รับมอบหมายจากกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ดูแลด้านการทดสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งในการกำหนดคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ดังนั้นการทดสอบจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำตามหลักมาตรฐานสากล นอกจากจะได้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานแล้วในการทดสอบแต่ละครั้งแล้ว ทั้งก่อนการผลิต ระหว่างการผลิตและหลังการผลิต จะช่วยให้เกิดการค้นคว้า วิจัยและสร้างพัฒนาการต่างๆได้ ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ที่ออกจากโรงงานของอุตสาหกรรม SME ของไทยก็จะมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
กระบวนการร่างมาตรฐานจำเป็นต้องใช้เวลาอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2 ปี ซึ่งจะต้องเทียบเท่ามาตรฐานสากลแต่ต้องปรับให้เข้ากับประเทศไทยด้วย เช่นประเทศไทยมีปัจจัยเรื่องความร้อน ความชื้นเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่นหลอดไฟ จอภาพโทรทัศน์ จึงจำเป็นต้องคำนึงถึงจุดนี้ด้วย จึงสามารถออกมาเป็นมาตรฐานบังคับสำหรับผู้ผลิตที่จะต้องส่งผลิตภัณฑ์เข้ามารับการทดสอบ ซึ่งมาตรฐานตรวจสอบการนำเข้า-ส่งออกจึงถือเป็นการป้องกันให้กับสินค้าที่ผลิตในประเทศอีกทางหนึ่ง
นายจารึก กล่าวว่าอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของไทยโดยรวมเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าปี 2548 จะโตน้อยกว่าปีที่แล้ว หากดูจากตัวเลขการส่งออกในปี 2547 ที่พุ่งขึ้นถึง 1.3 ล้านล้านบาท (โตขึ้น 14% เมื่อเทียบกับปี 2546) ขณะที่ตัวเลขอิมพอร์ตอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านล้านบาท จึงเกิดผลต่างประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์โดยรวม ที่เติบโตมากก็คือ เครื่องใช้ไฟฟ้า 21% (เทียบกับปี 46) มีมูลค่าส่งออกรวมถึง 540,000 ล้านบาท ส่วนอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์โต 40% มูลค่าส่งออกรวม 790,000 บาท
อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เป็น 1 ใน 3 อุตสาหกรรมหลักสำหรับส่งออกของประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ถือว่าเป็นชิ้นส่วนสำคัญของหลายๆอุตสาหกรรม เช่น รถยนต์ทั้งคันประกอบด้วยอิเล็กทรอนิกส์ถึง 30-40 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นเมื่อเมื่ออุตสาหกรรมยานยนต์โต อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ก็โตตามด้วยเช่นกัน (โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับรถยนต์) ในส่วนของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน จีนจะมาแรงมากในโลกของการแข่งขัน เนื่องจากจีนได้ประกาศตัวเป็น World’s Manufacturer ทั้งนี้เพราะความสามารถในการผลิต เช่น แอร์คอนดิชั่น ไมโครเวฟ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ที่สามารถผลิตได้หลายล้านเครื่อง ขณะที่ประเทศไทยผลิตได้น้อยกว่ามาก ประเทศไทยมีโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อยู่ไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย แต่หากนับรวมทั้งด้านการผลิตและการบริการจะมีอยู่ประมาณ 3,000 ราย นายจารึกกล่าว
ในขณะที่มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีแม้ว่าจะมีการเปิดเขตการค้าเสรี แต่ในปีที่ผ่านมาสหภาพยุโรป (อียู) ได้เริ่มประกาศใช้ระเบียบว่าด้วยการจัดการของเสีย อันเกิดจากซากเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ (West Electrical and Electronic Equipment: WEEE) และระเบียบว่าด้วยการจำกัดการใช้สารอันตราย (Restrictions on Hazardous Substances: RoHS) โดยระบบ RoHS นี้อาจส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกของไทย
ดังนั้น ทางสถาบันจึงต้องการที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ไทยที่ต้องการส่งสินค้าที่ไม่มี สารต้องห้ามส่งออกไปยังยุโรป ซึ่งตอนนี้ได้เสนอเรื่องไปยัง JETRO เพื่อสร้างซอฟแวร์ที่ใช้เป็นตัวทดสอบ เพื่อให้เป็นโปรแกรมกลางสำหรับพวก SME ได้ใช้
โดยในปีนี้ทางสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เตรียมจัดกิจกรรมร่วมกับบริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด ในงาน เนปคอน ไทยแลนด์ 2005 งานแสดงเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนหนึ่งของงาน NEPCON Series ที่โด่งดังไปทั่วโลก ในระหว่างวันที่ 16-19 มิถุนายน 2548 ณ.อิมแพ็ค เมือทองธานี โดยเป็นการจัดการประชุมเพื่อส่งเสริมความรู้ งานปีนี้จะเน้นเรื่องสารต้องห้าม ขบวนการบัดกรี ทางสถาบันฯจึงได้นำบุคคลที่มีประสบการณ์ตรงทางด้านนี้ เช่น โซนี่ มัตซูชิตะ ให้นำตัวอย่างมาให้ดูเพื่อประโยชน์แก่กลุ่ม SME โดยรวมถึงการนำเสนอระบบซอฟต์แวร์ด้วย ทั้งนี้ต้องการให้กลุ่ม SME ของไทยมีโอกาสพบปะกับผู้ประกอบการรายใหญ่ และได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ได้รู้จัก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
ชูจิตร ภิรมย์อรรถ
โทร. 02653-7272 ต่อ 104
แฟกซ์. 0-2653-7282
อีเมลล์. [email protected]จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘ เม.ย. ARDA จับมือ ฟาร์ม เอ็กซ์โป และพันธมิตร เปิดศึก AGRITHON by ARDA Season 2 เฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลุกพลังนวัตกรรมเกษตรไทย ชิงทุนวิจัยรวมกว่า 100
๑๘ เม.ย. กรุงศรี ฉลอง 80 ปี ดูหนัง 80 บาท ที่ Major Cineplex เมื่อชำระด้วยบัตรกรุงศรี เดบิตและบัตร Krungsri Boarding
๑๘ เม.ย. แบรนด์ซุปไก่สกัด รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในโครงการ สมองล้าอย่าขับ พักดื่มแบรนด์ จับมือ ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจจราจร
๑๘ เม.ย. ซัมซุงจัดใหญ่! เป็นเจ้าของ ตู้เย็น Side by Side รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมรับสิทธิพิเศษแบบจุใจ ได้แล้ววันนี้
๑๘ เม.ย. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้
๑๘ เม.ย. EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือนโยบายภาษีแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ
๑๘ เม.ย. ปักหมุด! เตรียมจัดงาน PET Expo Thailand 2025 จัดยิ่งใหญ่ครบรอบ 25 ปี
๑๘ เม.ย. ลดคลายร้อน ช้อปแลคตาซอย 1,000 ลด 100 พร้อมชวนร่วมสนุกถ่ายภาพคู่แลคตาซอย ลุ้น 10 รางวัล
๑๘ เม.ย. DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที THAIFEX - ANUGA ASIA 2025
๑๘ เม.ย. โรงแรมเครือดุสิตธานี เปิดตัวโปรพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ 'A Night on Us' เติมเต็มวันพักผ่อนอย่างมีความสุขกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีทั่วโลก