นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ และรับซื้อหนี้ด้อยคุณภาพมาบริหารระดับแนวหน้าของประเทศไทย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ บริษัทฯ จัดตั้งบริษัทย่อย คือ บริษัท บริหารสินทรัพย์เจ จำกัด หรือ JAM เพื่อสิทธิทางกฎหมายในการดำเนินธุรกิจการบริหารจัดการหนี้สินที่ดำเนินการทางกฎหมายแล้ว โดยล่าสุด แจ้งความคืบหน้าว่า บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด ได้ลงนามในสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้ด้อยคุณภาพ กับบริษัท บริหารสินทรัพย์ อัลฟา แคปปิตอล จำกัด โดยสัญญามีมูลค่าหนี้คงค้างตามสิทธิเท่ากับ 38 ล้านบาท ซึ่งหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ประเภทสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างพิจารณาซื้อหนี้ ดังกล่าวเพิ่มอีกราว 2 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูล
“ ล่าสุดบริษัทบริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด หรือ JAM ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JMT ซื้อหนี้จากบริษัท บริหารสินทรัพย์ อัลฟา แคปปิตอล จำกัด มูลค่า 38 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้ NPL ประเภทสินเชื่อบ้าน ถือว่าเป็นหนี้ก้อนไม่ใหญ่มากนัก เนื่องจากบริษัทฯ อยู่ในช่วงทดลองการซื้อหนี้ดังกล่าวเข้ามาบริหาร เพื่อเตรียมความพร้อมในการซื้อหนี้ NPLประเภทสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยก้อนใหญ่เพิ่มขึ้นในอนาคต จากก่อนหน้านี้ JMT ดำเนินธุรกิจซื้อหนี้ด้อยคุณภาพ ประเภทสินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อรถยนต์และจักรยานยนต์เท่านั้น” นายปิยะ กล่าว
นายปิยะกล่าวอีกว่า หนี้ NPL ประเภทสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใช้ระยะเวลาในการจัดเก็บหนี้นานเนื่องจากบ้านมีการผ่อนชำระค่อนข้างยาว และมีมูลค่าหนี้ต่อรายสูง ส่งผลให้ต้นทุนในการทำงานของบริษัทฯ ต่ำ เมื่อเทียบกับหนี้ประเภทสินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อรถยนต์และจักรยานยนต์ อีกทั้ง เป็นหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ความเสี่ยงในการติดตามหนี้จึงมีน้อย โดยมองว่าหนี้ประเภทดังกล่าวยังมีอยู่ในตลาดจำนวนมาก จึงเล็งเห็นโอกาสในการขยายเข้าไปรุกหนี้ประเภทนี้มากขึ้น
“JMT ดำเนินธุรกิจบริหารหนี้มาอย่างยาวนาน จึงมองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจไปสู่สินเชื่อที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งการบริหารหนี้ NPL ประเภทที่มีหลักประกัน รวมทั้งทรัพย์สินรอการขาย หรือ NPA ได้ในอนาคต ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ก็อยู่ระหว่างศึกษาและทดลองการเก็บหนี้ดังกล่าวแล้ว และคาดว่า จะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในปี 2557” นายปิยะ กล่าว