นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ตัวแทนเครือข่ายเยาวชนฯ ได้นำหลักฐานการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยได้สำรวจร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รัศมี ๓๐๐ เมตร รอบมหาวิทยาลัย ๑๒ แห่ง เมื่อวันที่ ๓-๑๐ ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่า มีร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งสิ้น ๓๔๐ ร้าน เฉลี่ย ๒๘ ร้าน/มหาวิทยาลัย ในจำนวนนี้เป็นร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใต้หอพักจำนวน ๑๐๕ ร้าน โดยแยกเป็นร้านเหล้าผับบาร์ ๑๔% ร้านขายของชำ ๕๕% ร้านสะดวกซื้อ ๒๒% และร้านอาหารทั่วไป ๙% ซึ่งทั้งหมดถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.๒๕๕๑ อย่างชัดเจน ทั้งนี้ จากข้อมูลดังกล่าว ตัวแทนเครือข่ายจึงได้มาร้องเรียนกับตน ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ซึ่งเป็นกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ และมีหน้าที่กำกับดูแลหอพัก เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเครือข่ายเยาวชนฯ ได้เสนอข้อเรียกร้องให้พิจารณาดังนี้ ๑. เร่งผลักดันให้เกิดมาตรการควบคุมร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้ห่างจากสถานศึกษาในรัศมีอย่างน้อย ๓๐๐ เมตร ซึ่งสามารถออกเป็นประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้ ๒. ลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใต้หอพัก และบังคับใช้กฎหมายกับกับหอพัก ที่กระทำผิด พร้อมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๒๗ (๔) ที่ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใต้หอพัก มีโทษจำคุก ๖ เดือน ปรับ ๑ หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตลอดจนเปิดกลไกรับเรื่องร้องเรียนปัญหานี้ด้วย และ ๓. ประสานงานกับกรมสรรพสามิต มิให้มีการออกใบอนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แก่ร้านค้าที่อยู่ใต้หอพักโดยเด็ดขาด
นางปวีณา กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีหน้าที่ดูแลพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนทุกคน และได้ตระหนักถึงความสำคัญของเด็กและเยาวชน ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต โดยกระทรวงฯ จะเร่งดำเนินการตามข้อเรียกร้องของเครือข่ายเยาวชนฯ โดยจะประสานขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้ง จะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบ และทำความเข้าใจกับสถานประกอบการต่างๆ เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาการเปิดร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใกล้กับสถานศึกษา และการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใต้หอพักต่อไป.