นายทรงวุฒิ อภิรักษ์ขิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GBX แนะนำชะลอการซื้อทองคำในช่วงนี้ โดยให้ติดตามปัจจัยการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯซึ่งเป็นตัวตัดสินว่าราคาทองคำจะล่วงหลุดทำจุดต่ำสุดใหม่ หรือจะสามารถยืนหยัดทรงอยู่ได้หรือไม่ ซึ่งหากเพดานหนี้ไม่ได้รับการขยายทันเวลา อาจทำให้สหรัฐฯต้องผิดนัดชำระหนี้ทางเทคนิคเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์และมีแนวโน้มที่จะถูกลดอันดับเครดิตและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะอ่อนลงทันที ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำอาจดีดกลับได้บ้าง แต่หากพรรคเดโมแครตและรีพับริกันสามารถตกลงกันได้ เงินทุนอาจไหลออกจากทองคำเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดทุนและในสินทรัพย์ที่เป็นดอลลาร์สหรัฐฯเพิ่มขึ้นและทำให้ราคาทองคำร่วงลงแรง
โดยราคาทองคำโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีการปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ $40.65/Oz หรือคิดเป็น 3.10% ปิดที่ระดับ $1,265.85/Oz (ณ เวลา 15.20 น. วันที่ 15/10/56 โดยมีจุดต่ำสุดที่ $1,262.40/Oz และมีจุดสูงสุดที่ $1,329.55/Oz) ซึ่งราคาทองคำปรับตัวลงสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ จากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศแต่งตั้งนางเจเน็ต เยลเลน ขึ้นเป็นประธานเฟดคนใหม่ต่อจากนายเบน เบอร์นันกี้ และรายงานยอดนำเข้าทองคำและโลหะเงินของอินเดียในเดือนกันยายนอยู่ที่ราว 800 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 4,600 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ทางโกลเบล็กแนะนำให้ซื้อขายเก็งกำไรในระยะนี้ในกรอบ $1,150 — $1,330/Oz หรือ 17,000 — 19,750 บาท/บาททองคำ (อ้างอิงค่าเงินบาทที่ 31.25 บาท/$) และมีการกำหนดจุดตัดขาดทุนหากผิดทาง เนื่องจากราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นหรือลงได้แรงหลังพักตัวในสัปดาห์ที่แล้ว
ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก แนะลงทุนในหุ้น TGPRO โดยมองว่าระดับราคาดีดกลับขึ้นมาทำ New High ในรอบ 3 สัปดาห์ โดยมีวอลุ่มสูงมาก ประกอบกับระดับราคาขยับออกไปเล่นนอกกรอบ BollingerTop ด้วย หากระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาปิดต่ำกว่าระดับดังกล่าวแถว 0.75 บาท น่าจะได้ลุ้นปรับตัวขึ้นต่อบริเวณ 0.85 บาทต่อไป
พร้อมทั้งยังแนะลงทุนหุ้น BTS โดยมองว่าระดับราคาดีดกลับขึ้นมาทำ New High ในรอบ 2 สัปดาห์ โดยมีวอลุ่มสูงประกอบกับตัวชี้วัด MACD กำลังขยับขึ้นยืนเหนือเส้น SIGNAL ซื้อด้วย ซึ่งมองว่าหากระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาปิดต่ำกว่า 9.00-9.05 บาท แนวโน้มราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปแตะแนวต้านบริเวณ 9.40-9.50 บาทเป็นลำดับต่อไป
นอกจากนี้ ยังแนะนำหุ้น MAJOR เนื่องจากมองว่าสัญญาณทางเทคนิคเริ่มดีดตัวกลับขึ้นมาทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบสัปดาห์ โดยมีวอลุ่มเพิ่มขึ้น ประกอบกับตัวชี้วัด MACD กำลังขยับขึ้นยืนเหนือศูนย์ และหากระดับราคาไม่ถอยลงไปปิดต่ำกว่า 19.20 บาท แนวโน้มที่ราคาหุ้นจะดีดกลับผ่านแนวต้านเดิมที่ 19.50 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 20.00 บาทได้