นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศปีนี้จะชะลอตัว อันเนื่องมาจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลก และภัยธรรมชาติหรือน้ำท่วมที่ประเทศไทยประสบอยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ด้วยการปรับตัวของบริษัทฯ ที่หันมาเน้นขยายสาขาหรือตลาดออกไปในต่างจังหวัดอย่างจริงจังในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีสาขาจำนวน 36 แห่งสามารถให้บริการรับสร้างบ้านได้มากกว่า 55 จังหวัด และส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯ สามารถทำยอดขายบ้านได้แล้ว 1,000 ล้านบาทเศษ เติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่าร้อยละ 30 โดยผู้บริโภคที่มาใช้บริการสร้างบ้านส่วนใหญ่หรือกว่าร้อยละ 90 เลือกปลูกสร้างในพื้นที่ต่างจังหวัด
“ปัจจัยสำคัญๆ ที่ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถแชร์ส่วนแบ่งตลาดหรือมียอดขายบ้านเติบโตแบบก้าวกระโดดนั้น เป็นผลมาจาก 1) การกล้าคิดนอกกรอบด้วยการนำระบบแฟรนไชส์มาช่วยสร้างเครือข่ายและแบรนด์ให้เข้มแข็ง 2) การเน้นและให้ความสำคัญกับโอเปอเรชั่นหรือระบบปฏิบัติงานขององค์กรที่ชัดเจน ทำให้การบริการมีมาตรฐานและควบคุมขั้นตอนได้แม่นยำมากขึ้น และ 3) การมีคู่ค้าหรือพันธมิตรทางการค้าที่ดีและให้การสนับสนุนกันมายาวนาน ซึ่งทั้งสามปัจจัยได้ส่งผลดีต่อลูกค้าที่มาใช้บริการ และสะท้อนกลับมาเป็นความสำเร็จของบริษัทฯ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว”
ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ บริษัทฯ ประเมินว่าความต้องการสร้างบ้านหลังใหม่ ในต่างจังหวัดยังขยายตัวต่อเนื่อง ดังนั้น บริษัทฯ จึงหันมาเน้นเรื่องการสื่อสารและเข้าถึงผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ทั้งในแง่การนำเสนอข่าวสารประชาสัมพันธ์ขององค์กร และการเพิ่มสาขาในต่างจังหวัดมากขึ้น ทั้งนี้ ในช่วง 3 เดือนสุดท้าย บริษัทฯ ทุ่มงบโฆษณาและประชาสัมพันธ์กว่า 10 ล้านบาท เพื่อจะสร้างการรับรู้สู่ผู้บริโภคทั่วประเทศผ่านสื่อต่างๆ ทั้งสื่อที่เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างและสื่อที่เจาะจงเฉพาะในท้องถิ่น นอกจากนี้ยังใช้งบจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ณ จุดขายสาขาอีก 10 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่จองสร้างบ้านภายในสิ้นปีนี้ จะได้รับส่วนลดและของแถมมากมาย (ตามราคาบ้าน) โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเฉพาะไตรมาสสี่ไว้ 400 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่ายอดขายรวมของกลุ่มพีดีเฮ้าส์ตลอดปี 2556 นี้น่าจะทะลุ 1.4 พันล้านบาท ซึ่งนับเป็นปีแรกตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ มาที่ทำยอดขายรวมทะลุพันล้านบาท
ต่อคำถามเรื่องปัญหาขาดแคลนแรงงาน นายพิศาล เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังเริ่มมีผู้รับเหมาช่วงและแรงงานคนไทยทยอยกลับเข้ามาทำงานกับบริษัทฯ มากขึ้น ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ปัจจัยหลักๆ เป็นเพราะ กลุ่มนี้พอใจกับการรับจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน ที่มีระบบบริหารจัดการแบบมืออาชีพ เพราะมีการจ่ายเงินตรงเวลาและไม่โดนเบี้ยวค่าจ้างเหมือนรับงานกับเจ้าของบ้านโดยตรง กอปรกับบริษัทฯ เองมีการปรับค่าแรงสูงขึ้นจากเดิมอีก 10-15% ทำให้เกิดแรงจูงใจ รวมถึงมีการฝึกอบรมช่างให้พัฒนาฝีมือการทำงานเพื่อได้ค่าจ้างที่สูงขึ้นด้วย