ฟิทช์คงอันดับเครดิตของ SVI ที่ ‘BBB+(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ศุกร์ ๑๘ ตุลาคม ๒๐๑๓ ๑๕:๐๑
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาว ของ บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI ที่ ‘BBB+(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F2(tha)’

ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต

การฟื้นตัวของธุรกิจหลังน้ำท่วม: ธุรกิจของ SVI ฟื้นตัวกลับมาหลังเหตุการณ์น้ำท่วมในปี 2554 โดยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 กำลังผลิตของบริษัทได้เพิ่มกลับมาเท่ากับช่วงก่อนเหตุการณ์น้ำท่วม โดยรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น 16.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ ฟิทช์เชื่อว่า SVI จะสามารถรักษาสถานะทางธุรกิจ และฐานะการเงินให้สอดคล้องกับอันดับเครดิตปัจจุบันในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง: ฟิทช์คาดว่า SVI น่าจะสามารถรักษาอัตราส่วน FFO-Adjusted Net Leverage ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 1 เท่าได้ในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 บริษัทมีเงินสดมากกว่าหนี้สินจำนวน 761 ล้านบาท ฟิทช์คากว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทซึ่งอยู่ที่ 500-550 ล้านบาท จะเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายสำหรับลงทุนจำนวน 350 ล้านบาทในปี 2556

เน้นผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ประเภท non-traditional: SVI ได้รับประโยชน์จากการที่บริษัทเน้นการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ระดับบนประเภท non-traditional ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี มีความผันผวนจากความต้องการที่ต่ำกว่า และมีอัตราส่วนกำไรจากการผลิตที่สูงกว่า ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้รายได้ และอัตราส่วนกำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้น ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางสภาวะอุตสาหกรรมที่ท้าทาย (ยกเว้นปี 2555 ซึ่งเป็นปีที่บริษัทเพิ่งฟื้นตัวจากเหตุการณ์น้ำท่วม)

เติบโตของอุตสาหกรรม: SVI ยังคงได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวของธุรกิจให้บริการแบบครบวงจรในการประกอบผลิตภัณฑ์ประเภทวงจรไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูป ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนแนวโน้มที่เจ้าของผลิตภัณฑ์ต้นแบบ (Original Equipment Manufacturer) จะว่าจ้างผู้รับประกอบแผงวงจรสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ให้ผลิตแทนเพิ่มขึ้น

ขนาดและการกระจุกตัวของรายได้: ปัจจัยเสี่ยงของ SVI ประกอบด้วยการที่บริษัทมีกลุ่มลูกค้าที่กระจุกตัว แนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในธุรกิจรับประกอบแผงวงจรสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภท non-traditional รวมถึงความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ SVI ยังเผชิญกับความผันผวนของความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียน และความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตามบริษัทมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วนโดยการทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยลบ:

- หนี้สินสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการจ่ายเงินปันผลที่สูง การลงทุนที่สูงกว่าที่คาดไว้ หรือการเข้าซื้อกิจการอื่นโดยใช้เงินทุนจากการกู้ยืมที่สูง (Debt Funded Acquisition) ซึ่งส่งผลให้ FFO-Adjusted Net Leverage สูงกว่า 1.0 เท่าอย่างต่อเนื่อง

- อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า ต่อรายได้ (EBITDAR Margin) ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 6% อย่างต่อเนื่อง (ปี 2555 บริษัทมี EBITDAR margin อยู่ที่ 7.45%)

- สถานะทางการตลาดที่อ่อนแอลง หรือการสูญเสียลูกค้ารายสำคัญ

ปัจจัยบวก:

- ขนาดธุรกิจของบริษัทมีการขยายตัวโดยมีรายได้สูงกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ปี 2555 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 248 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)

- การกระจายตัวของลูกค้าและกลุ่มลูกค้าตามภูมิภาคที่มากขึ้น โดยที่บริษัทยังคงรักษา EBITDAR Margin ให้อยู่ในระดับสูงกว่าร้อยละ 10 อย่างต่อเนื่อง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๒ ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๑๗:๑๖ กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๑๗:๕๕ Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๑๗:๔๗ โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๑๗:๑๒ ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๑๗:๐๐ กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๑๖:๐๐ WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๑๖:๐๔ เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๑๖:๔๗ ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๑๖:๐๒ NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ