นายกาญจน์ ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการเอเอสเอ็ม กล่าวว่า ปัจจัยความสำเร็จของธุรกิจด้านงานรักษาความปลอดภัยคือ คุณภาพคนและเทคโนโลยี ซึ่งสองส่วนนี้ต้องพัฒนาไปพร้อมกัน แต่ปัญหาส่วนใหญ่ของผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ คือ พนักงานมีอัตราการเข้าออกงานสูง ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณในการฝึกอบรมและขาดความต่อเนื่องของงาน ดังนั้น การสร้างขวัญและกำลังใจให้พนักงานจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ที่เอเอสเอ็มดำเนินการมาตลอด ซึ่งความร่วมมือในการเปิดหลักสูตรการจัดการความปลอดภัยในครั้งนี้ จึงเป็นการสนับสนุนให้พนักงานเอเอสเอ็มได้มีโอกาสเข้ารับการศึกษาพัฒนาภาคทฤษฎีและนำไปใช้ควบคู่กับการปฏิบัติงานประจำที่ทำอยู่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งการส่งเสริมการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยปลูกฝังให้พนักงานของเอเอสเอ็ม มีจรรยาบรรณในวิชาชีพและมีจิตสำนึกที่ดีต่อองค์กร
“พนักงานที่เรียนจบหลักสูตรนี้จะได้รับวุฒิการศึกษาระดับ ปวช. ทำให้มีโอกาสเติบโตในหน้าที่การงาน ซึ่งบริษัทมีนโยบายส่งเสริมคนภายในให้เติบโตในสายงานขึ้นมาเป็นระดับหัวหน้าและระดับบริหารอยู่แล้ว ในอนาคตอันใกล้นี้ เอเอสเอ็ม ตั้งเป้าที่จะขยายหลักสูตรสู่ระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และระดับปริญญาตรีด้วย เพื่อผลิตบุคลากรที่มีศักยภาพด้านรักษาความปลอดภัยเพื่อรองรับการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)” นายกาญจน์ กล่าว
สำหรับหลักสูตรบริหารการจัดการด้านความปลอดภัย ในระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ เป็นหลักสูตรอาชีวะศึกษาระบบทวิภาคี ที่สถานศึกษาและสถานประกอบการ ต้องร่วมกันพัฒนาออกแบบการเรียนการสอนในบางหมวดวิชา อาทิ วิชาปฏิบัติการจัดการความปลอดภัย วิชาภาษาอังกฤษสำหรับความปลอดภัย วิชาความปลอดภัยในงานอุตสาหกรรม การควบคุมมลพิษทางอากาศและเสียง ทั้งนี้รายวิชาดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากอาจารย์วิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรปราการเป็นผู้สอน โดยเบื้องต้นจะรับสมัครพนักงานเอเอสเอ็มที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 (ม.3) เข้าศึกษารุ่นแรก เริ่มต้นเดือนพฤศจิกายน 2556 ประมาณ 120 คน แบ่งเป็น 3 ห้องเรียนๆ ละ 40 คน โดยเอเอสเอ็มจัดให้มีศูนย์การเรียน 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่สำนักงานลาดกระบัง และที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งภายในห้องเรียนทั้ง 2 แห่ง จะประกอบไปด้วยอุปกรณ์การเรียนการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยอย่างครบครัน
ทั้งนี้จุดเด่นของหลักสูตรคือ เน้นให้ความรู้ด้านทฤษฎีควบคู่ฝึกอบรมตามมาตรฐานวิชาชีพ และมาตรฐานงานการจัดการความปลอดภัย เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในงานประจำที่ปฏิบัติอยู่ อาทิ การเน้นให้ความรู้ด้านภาษาทั้งไทยและต่างประเทศ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการสื่อสาร ทักษะการเป็นผู้นำ เป็นต้น โดยเมื่อเรียนจบหลักสูตรพนักงานมีโอกาสก้าวสู่ตำแหน่งงานที่สูงขึ้นอาทิ ผู้ควบคุมงาน หัวหน้างานไซต์งานต่างๆ สอดคล้องกับการขยายการให้บริการด้านความปลอดภัยของเอเอสเอ็มสู่ภายนอกสนามบิน หรือสามารถเลือกไปประกอบอาชีพ ในหน่วยงานภาครัฐ หรือเอกชน หรืออาชีพอิสระได้โดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้บุคคลากรที่มีความพร้อมก้าวสู่ตลาดแรงงานได้อย่างเสรี และเป็นการยกระดับบุคลากรด้านอุตสาหกรรมความปลอดภัยในภาพรวมให้มีศักยภาพสูงขึ้น
ทางสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวะศึกษา (สอศ.) ให้ความสำคัญกับการผลิตบุคลากรสายอาชีวศึกษาให้สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ ขณะเดียวกันต้องตอบสนองกับความต้องการของภาคเอกชนและตลาดแรงงานทุกระดับอย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้บุคลากรที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันอาชีวศึกษาได้รับการยอมรับ มีโอกาสเติบโตในหน้าที่การงาน มีอาชีพที่มั่นคง มีรายได้ไม่น้อยหน้าคนที่จบหลักสูตรปริญญาตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประเทศไทยก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน การพัฒนาสร้างบุคลากรให้มีศักยภาพพร้อมเข้าสู่ตลาดงานถือเป็นสิ่งสำคัญ.