ดร. ภูษณ ปรีย์มาโนช ประธานกรรมการของไออีซี เปิดเผยภายหลังที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2556 (ครั้งใหม่) เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2556 อนุมัติเพิ่มทุนราว 1,500ล้านบาทว่าบริษัทฯ จะนำเงินเพิ่มทุนที่ได้รับจากผู้ถือหุ้น (Rights Offering) และบุคคลในวงจำกัด (PrivatePlacement) ไปลงทุนและต่อยอด3 ธุรกิจหลักของบริษัทคือ ธุรกิจสารสนเทศ(Information)พลังงานทดแทน (Renewable Energy) และธุรกิจสื่อสาร (Communication)
“บริษัทฯ ตั้งเป้าระดมทุนราว2.1พันล้านบาทเพื่อรองรับโครงการด้านสารสนเทศ โรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและปรับโครงสร้างหนี้กับต่อยอดธุรกิจในอนาคต แต่ด้วยสภาวะตลาดทุนปัจจุบันที่ไม่เอื้ออำนวย ส่งผลต่อความมั่นใจของผู้ถือหุ้น ที่ประชุมผู้ถือหุ้นจึงมีผู้เสนอปรับลดราคาหุ้นเพิ่มทุนทั้งในส่วน RO และ PP ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดเงินเพื่อใช้ในโครงการต่างๆของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม วงเงินเพิ่มทุนที่บริษัทฯ ได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นราว 1,500 ล้านบาทนี้ก็เชื่อว่าเพียงพอสำหรับโครงการปัจจุบัน เมื่อผลประกอบการในอนาคตของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้น เราอาจใช้ Debt financingเข้าเสริมสภาพคล่องโครงการในอนาคตอีกส่วนหนึ่งด้วย” ดร. ภูษณกล่าว
สำหรับบรรยากาศการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นไออีซีเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2556 มีผู้ถือหุ้นและผู้รับมอบฉันทะเข้าร่วมประชุมเกือบ 500 ราย โดยมีการแสดงวิดีทัศน์ของบริษัทฯ และนิทรรศการนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี ประเด็นที่มีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง คือ การกำหนดราคาขายหุ้นเพิ่มทุนในราคา 0.035 บาทต่อหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งที่ประชุมได้มีมติแก้ไขวาระให้ปรับลดราคาเหลือ 0.0275 บาทต่อหุ้น และให้สามารถจองเกินสิทธิได้ จากเดิมที่กำหนดไว้ว่าไม่ให้จองเกินสิทธิ
ดร. ภูษณ แถลงต่อที่ประชุมด้วยว่า นับตั้งแต่บริษัทฯ ประกาศว่าจะขายหุ้นเพิ่มทุน RO และ PP ได้มีกลุ่มทุนต่างประเทศให้ความสนใจหลายราย ด้วยพิจารณาเห็นว่า ไออีซีกำลังจะ พลิกกลับมามีกำไรและโครงการมีโอกาสสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดี โดยในที่ประชุมได้มีการแถลงและลงมติไปแล้วว่า วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนไออีซีจะมุ่งเน้นการลงทุนในโครงการที่สามารถสร้างผลตอบแทนการลงทุนไม่ต่ำกว่า 12% และระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 7ปี ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้นถึงอนาคตข้างหน้าของบริษัทฯ
“สำหรับผู้ถือหุ้นที่มั่นใจในทิศทางอนาคตของบริษัทฯหลังปรับโครงสร้างธุรกิจ ผมเชื่อว่าจะให้ความสนใจจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของไออีซีซึ่งจะเปิดรับจองในระหว่างวันที่ 11-15 พฤศจิกายน 2556 นี้แน่นอน เหตุผลไม่ใช่เพราะราคาขายหุ้นมีการปรับลดลง แต่เป็นเพราะพวกเขาเชื่อมั่นในอนาคตการต่อยอด 3 ธุรกิจหลักซึ่งเป็นธุรกิจเทคโนโลยีแห่งอนาคต คือ ธุรกิจสารสนเทศ (Information) พลังงานทดแทน (Renewable Energy) และธุรกิจสื่อสาร (Communication) พร้อมทั้งการมุ่งเน้นขับเคลื่อนองค์กรด้วยองค์ความรู้ทางเทคโนโลยี (Technology Driven) เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง” ดร.ภูษณ กล่าวทิ้งท้าย