พรรณิภา ปวนะฤทธิ์ ในฐานะนายกองค์การกำหนดเทรนด์ผมโลก Intercoiffure Thailand (อินเตอร์คอฟ์ฟอร์ ไทยแลนด์) ควงแขนลูกสาว พริดา ลิมปานนท์ ได้ไปร่วมงาน Hair Fashion Week ที่ผ่านมา ณ ประเทศฝรั่งเศส เพื่อประชุมและอัพเดทเทรนด์ผมสำหรับปี 2014 ได้กล่าวถึง “องค์กรกำหนดเทรนด์ผมโลก หรือ Intercoiffure Mondial” (อินเตอร์คอฟ์เฟอร์ มอนเดล) สถาปนาโดยเจ้าหญิงเกรซ เคลลี่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ของเจ้าหญิงแคโรไลน์ แห่งโมนาโค ว่า “เป็นองค์กรผมระหว่างประเทศแห่งแรกที่มีมาตรฐานสูงระดับสากล เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มกันของผู้ที่มีจิตวิญญาณรักในความงาม ที่พรั่งพร้อมด้วยความเป็นมืออาชีพและมีความรู้บวกกับแนวคิดแบบสร้างสรรค์ ซึ่งนอกจากจะมีเครือข่ายทั่วโลกแล้ว ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยมิตรภาพของการแลกเปลี่ยนโปรแกรมการฝึกอบรมระหว่างประเทศ ซึ่งมีความมุ่งมั่นอันแรงกล้าอีกด้วย โดยองค์กรนี้ มีสมาชิกร้านซาลอนมากกว่า 3,000 ร้าน ใน 56 ประเทศ ซึ่งแต่ละร้านก็จะอยู่ในใจกลางเมืองของแต่ละประเทศทั้งนั้น เช่น ปารีส, นิวยอร์ก, โตเกียว, เบอร์ลิน, ลอนดอน, โรม ฯลฯ ซึ่งในส่วนของประเทศไทยนั้นก็มีสมาชิกทั้งสิ้น 40 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นทั้งร้านซาลอนและบริษัทที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม”
“Intercoiffure Mondial” จะจัดงานประชุมขึ้นทุกๆปีเพื่อกำหนดเทรนด์ผมโลกสำหรับในปีต่อไป เพื่อเป็นศูนย์กลางที่รวบรวมช่างผมระดับมืออาชีพจากทั่วทุกมุมโลก สำหรับเผยแพร่และนำเทรนด์แฟชั่นนี้ส่งต่อให้ไปอย่างแผ่วงกว้างจนเกิดเป็นกระแสนิยมไปทั่วโลก พร้อมทั้งยังเผยแพร่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องของเส้นผม เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ต่างๆอย่างมากมายอีกด้วย นับว่าเป็นการรวมกลุ่มพันธมิตรด้านอุตสาหกรรมแห่งวงการผมอันแข็งแกร่ง”
“จากการที่เราได้ไปร่วมประชุมที่ผ่านมา ก็อยากจะอัพเดทเทรนด์ผมให้แฮร์สไตลิสต์และเหล่าบรรดาแฟชั่นนิสต้าทุกคนได้ทราบถึงเทรนด์ผมโลกสำหรับปี 2014 ดังนี้”
“Metro” คือ แฮร์โชว์ที่น่าตื่นเต้นเสมือนได้ทัวร์รอบกรุงปารีส เพราะโดดเด่นด้วยสีสันที่ฉูดฉาด สไตล์ป๊อบร็อค และการเกล้าผมมวยสุดอลังการขนาดไซส์ XL, การตัดผมให้ปรกหน้าผากและการต่อผมด้วยปอยผมสีนีออนต่างๆ นอกจากนี้ก็ยังสนุกสนานกับการถักเปียและการม้วนผมแล้วเกล้าให้สูงๆ ซึ่งแสดงออกถึงความขี้เล่น ง่ายๆสบายๆ และแสดงออกถึงพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง
“Toi,Moi” คือ แฮร์โชว์ที่ไร้ขีดจำกัดด้วยอิสระแห่งแนวคิดด้วยรูปแบบการนำเสนอผลงานแบบผสมผสาน ระหว่างชายและหญิง ทรงผมผู้ชายเน้นการตัดสั้นอย่างประณีตละเอียดอ่อนและการเซ็ทผมอย่างวิจิตรบรรจง ส่วนแบบผมผู้หญิงจะเน้นการตัดให้เห็นเส้นขอบผมที่ชัดเจนเพื่อแลดูแข็งแกร่งและสง่างาม เน้นที่ความเงางามของเส้นผมอย่างโดดเด่น ผ่านฝีมือการจัดแต่งผมอย่างบรรจงดุจดั่งผลงานสถาปัตยกรรมบนเรือนผม
"Japan Edge" รูปแบบของทรงผมนี้จะไม่ใช่แนวพังค์ หรือแนวร็อค แต่เป็นสไตล์ผมที่แลดูเหมือนจะสวยไม่สมบูรณ์แบบแต่สุดเพอร์เฟ็คที่ไม่มีรูปแบบตายตัว โดยเนรมิตผมเฉดสีแดงสุดร้อนแรง, สีอัลตร้าบลอนด์ และสีซ็อฟไอซ์ ถ่ายทอดผ่านนางแบบสุดเปรี้ยวซ่า สไตล์อินเดียนแดง และสไตล์อีฟนิ่งเดรสสุดหรู โดดเด่นด้วยแบบผมบ็อบสั้นตัดอย่างเก๋ไก๋สไตล์กรันจ์ (Grunge) ที่ทำให้แลดูอ่อนวัย สวยสบายๆ อย่างสไตล์โมเดิร์น
"Trend Inspirations from Germany" ทรงผมรูปแบบที่สบายๆ เป็นลุคแนว easy-to-wear แต่สามารถสัมผัสถึงความหรูหรา โดดเด่นด้วยการถักเปียฝรั่งเศสแบบหลวมๆ เพื่อสะท้อนถึงรูปแบบชีวิตที่เรียบง่ายแต่หรูหรา!
"New Beauty 2.0" เสน่ห์แห่งสีสันของกลางวันและกลางคืน ด้วยแบบผมสั้นที่มีรูปทรงอันสวยงามตัดเล่นระดับเลเยอร์ จัดทรงด้วยแวกซ์และฉีดสเปรย์ให้อยู่ทรง ติดโบว์อย่างตั้งใจสะดุดสายตาดุจดั่งร่ายมนตร์เสน่ห์บนกวีแห่งร็อค ทำให้เป็นเสน่ห์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร เหมาะสำหรับไปงานปาร์ตี้อันสุดหรรษา
“Up-dos, Art in Creation" ทรงผมที่โดดเด่นเสมือนดั่งภาพเงาอันสวยงามและรูปทรงที่สมบูรณ์แบบ ด้วยรูปแบบสไตล์ที่รวบทรงสูงที่ดูโดดเด่น ด้วยการมัดผมทรงหางม้าสูงสุดเรียบหรู จนกลายเป็นผลงานผมด้วยศิลปะชั้นสูงอันงดงาม น่าหลงใหล
"Ethnic Candy" แฟชั่นผมที่เกิดจากแรงบันดาลใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จากความแตกต่างและการผสมผสานระหว่างสีและโครงสร้างผม โดดเด่นด้วยการจัดแต่งทรงผมโดยการจับเส้นขอบผมที่ชัดเจน เป็นลักษณะทรงเลขาคณิตอันพลิ้วไหว ถ่ายทอดถึงความเป็นเอเชีย มีการจัดแต่งทรงผมอย่างวิจิตรบรรจง แต่มีลูกเล่นในลักษณะสไตล์แฟนซี
"Illumination" ศิลปะย้อนยุคแห่งโลกอนาคต — รูปแบบการนำเสนอในรูปแบบ Great Gatsby อันทันสมัย ความโดดเด่นอยู่ที่รูปแบบแฟชั่นวัยรุ่น ที่ได้แรงบันดาลใจจากไวนิล, หนัง และขนสัตว์ กลายเป็นลักษณะการตัดผมที่ไม่เท่ากันอย่างตั้งใจ หรือจะเป็นการเกล้าผมและถักเปียแซมด้วยริบบิ้น โดยนำโทนสีพาสเทลมาใช้ ตามด้วยทรงผมแบบปล่อยปอยผมหยิกเป็นลอนเพื่อแลดูเป็นศิลปะอันสมบูรณ์แบบ ดุจดั่งสุริยุปราคาที่ส่องแสงเจิดจรัสในโลกอนาคตกาลอีก 60 ปีข้างหน้า ทำให้ "Illumination" คือแบบผมที่สะท้อนถึงความรู้สึกที่แข็งแกร่งและสว่างไสว ที่มีความเป็นประกาย ระยิบระยับ เจิดจรัส
“นอกจากนี้เรายังได้รับภารกิจในการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในการจัดตั้งองค์กร "Education for Life" (เอ็ดดูเคชั่น ฟอร์ ไลฟ์) พรรณิภา ปวนะฤทธิ์ กล่าวเสริม
“ตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่ผ่านมา สมาชิกของ Intercoiffure ได้ทำข้อตกลงสำหรับช่วยเหลือผู้ยากจน จึงได้จัดตั้งองค์กร "Education for Life" ขึ้นมา นั่นก็คือองค์กรสำหรับช่วยเหลือเหล่าวัยรุ่นที่มีอายุระหว่าง 16-21 ปีที่ยากจนและอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยเราจะให้ความช่วยเหลือด้วยการให้ความรู้ฝึกอบรมอาชีพช่างผม เพื่อให้กับคนเหล่านั้นให้ห่างไกลจากยาเสพติด และการค้าประเวณี ที่นอกจากจะให้ความรู้ฝีกอาชีพทำผมแล้ว ยังดูแลวัยรุ่นเหล่านี้อย่างใกล้ชิด ให้อยู่ในสังคมและสภาวะแวดล้อมที่ดีและมีคุณภาพ ตลอดจนฝึกฝนให้เกิดความรู้ความชำนาญและนำเอาไปประกอบอาชีพ สำหรับประเทศไทยนั้น ถือว่าเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเซียที่ได้จัดตั้งองค์กร "Education for Life" ขึ้น ซึ่งจะเป็นแห่งที่ 5 ของโลก ต่อจาก ประเทศบราซิล, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีน่า, อุรุกวัย และทวีปแอฟริกาใต้”
“ปัจจุบันได้มีผู้ที่ได้จบหลักสูตรจากองค์กร "Education for Life" และได้รับการจ้างงานจากร้านซาลอนจำนวนมากกว่า 150 คน ให้ประกอบอาชีพช่างผม โดยความช่วยเหลือนี้ยังคงต้องการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ได้เช่นกัน โดยการบริจาคเงินเพื่อเป็นทุนทรัพย์หรือการบริจาคอุปกรณ์ทำผมต่างๆ ให้กับองค์กร และสำหรับแฮร์สไตลิสต์ที่สนใจจะช่วยเหลือองค์กรนั้น ท่านก็สามารถสมัครเพื่อร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้ในการสอนอาชีพช่างผมให้แก่เหล่าบรรดานักเรียนได้” พรรณิภา ปวนะฤทธิ์ กล่าวสรุป