นายศิริพงษ์ พิพัฒสัตยานุวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล เอจี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร FitLine และผลิตภัณฑ์ดูแลผิว BeautyLine ที่มีชื่อเสียงจากประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ นำเข้าผลิตภัณฑ์ Fit Line มาเป็นระยะเวลา 1 ปี ถือว่าได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคค่อนข้างดี เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่ซื้อใช้แล้วเห็นผลจึงใช้ต่อ ถึงแม้ว่าจะมียอดขายต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 10% แต่คาดว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายจะสามารถถึงเป้าที่วางไว้ เนื่องจากได้มีแผนการตลาดที่จะบุกกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด โดยจะมีการจัดกิจกรรมในต่างจังหวัดอีก 3 จังหวัด โดยเริ่มจังหวัดแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นการสร้างฐานลูกค้าให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งน่าจะเพิ่มสัดส่วนของลูกค้าต่างจังหวัดได้อีก 20-25% ทำให้เชื่อมั่นว่าในต้นปีหน้าจะสามารถทำยอดขายให้ได้ใกล้เคียงตามเป้าที่วางไว้
สำหรับการทำธุรกิจเพื่อรองรับลูกค้าต่อจากนี้ คือ การทำการสื่อสารการตลาดผ่านสื่อสมัยใหม่ อาทิ เฟซบุ๊ก และอินสตราแกรม ซึ่งมีต้นทุนในการดำเนินการไม่สูงมาก โดยอยู่ระหว่างการพัฒนา เพื่อนำไปสู่ช่องทางสำหรับสร้างแบรนด์ เป็นการสื่อสารระหว่างผู้จำหน่ายและลูกค้า โดยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวสามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย โดยโจทย์หลักหลังจากนี้คือ สร้างการรับรู้แบรนด์ไปยังคนรุ่นใหม่ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจอีกทางหนึ่ง เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่มนี้จะมีไลฟ์สไตล์ที่ต้องการหารายได้เพิ่มจากการทำธุรกิจเสริม เพื่อสนองความต้องการของตนเองในยุควัตถุนิยม
นายศิริพงษ์ กล่าวต่อไปอีกว่า ผลิตภัณฑ์ FitLine ที่นำเข้ามาระยะแรกมีสินค้าทั้งหมด 4 ชนิด หรือเรียกว่า ชุดให้พลังงานแก่เซลล์ เป็นชุดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยเพิ่มสารอาหารให้เหมาะสมกับความต้องการความสมดุลในการดำรงชีวิต สามารถตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี และถือเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ เนื่องจากในผลิตภัณฑ์ FitLine มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สำคัญเรียกว่า กลุ่มให้พลังงานแก่เซลล์ (Cell Energy Set) ที่สามารถส่งผ่านสารอาหารตรงไปยังเซลล์ ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า NTC (Nutrient Transport Concept) ที่สามารถเพิ่มการดูดซึมได้เร็วกว่าถึง 3-5 เท่า เมื่อเทียบกับรูปแบบละลายน้ำทั่วไปที่ดูดซึมได้เพียง 20-25% ทำให้เซลล์ได้รับสารอาหารที่มีประสิทธิภาพในสัดส่วนที่เหมาะสมและเพียงพอ และสามารถขจัดสารพิษและลดความเป็นกรดในร่างกายได้อย่างเต็มที่ จึงเหมาะกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน
สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และดูแลผิวพรรณ ในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น และมีรายใหม่เข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ลูกค้ามีความต้องการสูงขึ้น บริษัทฯ จึงได้ให้ความสนใจกับธุรกิจนี้ ประกอบกับตนเองได้เคยประสบปัญหาด้านสุขภาพ และมีโอกาสได้ใช้ผลิตภัณฑ์ และพบว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงหลายประการ จนมั่นใจในคุณภาพของสินค้า จึงได้ตัดสินใจเป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร FitLine แบรนด์ดังจากประเทศเยอรมนี เนื่องจากมีกระบวนการผลิตที่ทันสมัย และเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในประเทศแถบยุโรป อีกทั้งเพื่อต้องการให้คนไทยได้มีโอกาสได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เพื่อให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น และดำรงชีวิตได้อย่างยืนยาว อีกทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสในการทำธุรกิจที่มั่นคงได้อย่างแน่นอน นายศิริพงษ์กล่าวทิ้งท้าย