การประชุมเรื่อง "จรรยาบรรณการท่องเที่ยวโลกเพื่อพัฒนาคุณภาพการท่องเที่ยวไทยสู่ประชาคมอาเซียน" จัดขึ้นที่ห้องประชุมกมลทิพย์ โรงแรมสุโกศล กรุงเทพฯ ในวันที่ 15 ตุลาคม 2556 โดยมีนายภาษิต พุ่มชูศรี รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว เป็นประธานเปิดการประชุม
การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นโดยมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 250 คนซึ่งเป็นตัวแทนจากสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการธุรกิจด้านการท่องเที่ยว และตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย
นายภาษิตกล่าวว่า การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาทมากที่สุดของประเทศ การที่ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวไม่เพียงแต่ช่วยสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่ประชาชนเท่านั้น แต่ยังเป็นการกระตุ้นให้การท่องเที่ยวเติบโตรวดเร็วกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ ด้วย
ข้อมูลจากองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติว่าในปีพ.ศ.2555 ชี้ให้เห็นว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยถึง 22.35 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 16 จากปีที่ผ่านมา และสร้างรายได้ให้กับประเทศมากถึง 984,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึงร้อยละ 27 นายภาษิตกล่าวว่า แนวโน้มดังกล่าวนับว่าเป็นก้าวใหม่ของการท่องเที่ยวไทยที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวที่ก้าวกระโดดเช่นนี้ ส่งผลให้รายได้เข้าประเทศเพิ่มมากขึ้น การจ้างงานเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามผลกระทบจากอัตราที่ก้าวกระโดดนี้ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความเสียหายของทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและต่อการเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตของชุมชนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว
นายภาษิตกล่าวเพิ่มเติมว่ารัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาและบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและการบริการด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับและประทับใจแก่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
จรรยาบรรณการท่องเที่ยวโลกประกอบด้วยหลักการ 10 ประการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดผลกระทบของการท่องเที่ยวที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและมรดกทางวัฒนธรรม ซึ่งครอบคลุมเนื้อหาเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคการรับผิดชอบต่อสังคมความยั่งยืนทางวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมรวมทั้งการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ซึ่งจะสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษขององค์การสหประชาชาติ
ทั้งนี้กรมการท่องเที่ยวได้ดำเนินการจัดพิมพ์เอกสารเผยแพร่หลักจรรยาบรรณดังกล่าวเป็นภาษาไทยเผยแพร่ให้องค์กรภาครัฐภาคเอกชนสถานบันการศึกษาธุรกิจเอกชนและผู้มีส่วนเกี่ยว ข้องในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้รับทราบถึงจรรยาบรรณดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย
ทางด้านการเตรียมพร้อมด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยสู่การรวมตัวของประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียนในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งจะเกิดการเคลื่อนไหวของสินค้า บริการ แรงงานฝีมือการลงทุน ตลอดจนเงินทุนในภูมิภาคที่สะดวกและเสรียิ่งขึ้น นายภาษิต กล่าวว่ากรมการท่องเที่ยว ในฐานะองค์กรภาครัฐที่มีอำนาจควบคุมด้านมาตรฐานของสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวในประเทศไทย จะเร่งผลักดันนโยบายด้านการท่องเที่ยวที่ปลอดภัยและเป็นธรรมพร้อมทั้งสนับสนุนให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ยกระดับมาตรฐานการให้บริการและการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะซึ่งการดำเนินการตามหลักจรรยาบรรณการท่องเที่ยวโลกจะเป็นส่วนช่วยในการพัฒนาและยกระดับการบริการด้านการท่องเที่ยวไทยอีกทางหนึ่ง