หนุ่มต้าร์เลยได้โอกาสขอเล่าประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงตนเองหันมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอที่ทำให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดว่า
“ที่บ้านปลูกฝังให้ออกกำลังกายตั้งแต่เด็กๆ แต่เมื่อโตขึ้นด้วยภาระหน้าที่ต่างๆ ทำให้มีกิจกรรมทางกายที่ลดน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงใกล้เรียนจบปริญญาเอกที่สหรัฐอเมริกา เรียนหนักมาก ทำให้เกิดความเครียดสูง น้ำหนักพุ่งขึ้นเกือบ 100 กิโลกรัม ส่งผลให้สุขภาพย่ำแย่ จึงตั้งปณิธานกับตัวเองเอาไว้ว่าจะต้องกลับมาแข็งแรงให้ได้ เริ่มต้นจากลงแข่งวิ่งมาราธอน 42 กิโล ผมเริ่มซ้อมวิ่งล่วงหน้า 5 เดือน และสุดท้ายก็ทำสำเร็จและสุขภาพดีขึ้นด้วย จึงจุดประกายว่าจะไม่ปล่อยให้ร่างกายเป็นอุปสรรคอีกต่อไป หลังจากนั้นก็เริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจังจนเป็นกิจวัตร คือ ตื่นเช้ามาเริ่มด้วยการว่ายน้ำ 20 นาที 1000 เมตร สลับกับไปวิ่ง 3 รอบสวนลุมพินี ระยะทาง 7.5 กิโลเมตร และออกทริปขี่จักรยานทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ทั้งนี้จะต้องดูด้วยว่าการออกกำลังกายแบบใดที่เหมาะสมกับตัวเองเพื่อลดอาการบาดเจ็บและให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดแก่ร่างกาย ผมคิดว่าถ้าโครงการ Exercise is Medicine Thailand สามารถอบรมและผลักดันให้แพทย์สั่งการออกกำลังกายเหมือนการสั่งยาได้จริงๆ จะเป็นประโยชน์กับคนไทยมากครับ เพราะผมพิสูจน์แล้วว่ายาวิเศษที่ดีที่สุดของสุขภาพเราคือการออกกำลังกายนี่เอง” ใครจะเอาสูตรเด็ดเคล็ด (ไม่) ลับ ของหนุ่มต้าร์ไปใช้ก็ได้ไม่ว่ากัน แต่จะให้ดีต้องดูว่าการออกกำลังกายแบบใดที่เหมาะสมกับตัวเองด้วย