รถเมล์ ขสมก.และรถเอกชนร่วมบริการ ปรับค่าโดยสารอีก 1 บาท กับรถเมล์ทุกประเภท เริ่ม 2 พ.ค.48

พุธ ๒๗ เมษายน ๒๐๐๕ ๐๘:๐๘
กรุงเทพฯ--27 เม.ย.--ขสมก.
นายปกศักดิ์ เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กระทรวงคมนาคม
เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง กรมการขนส่งทางบก เห็นควรให้มีการปรับปรุงอัตราค่าโดยสาร รถโดยสารประจำทางหมวด 1 และหมวด 4 ในเขต กทม.และจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่อง ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับต้นทุนการประกอบการขนส่งเพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ จากภาวะที่รัฐบาลประกาศให้มีการปรับราคาน้ำมันดีเซลขึ้นอีกลิตรละ 3 บาท จึงอนุมัติให้รถเมล์ของ ขสมก. และ รถเอกชนร่วมบริการ ปรับราคาค่าโดยสารเพิ่มอีก 1 บาท ทั้งรถเมล์ธรรมดา และรถเมล์ปรับอากาศ ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2548 นี้เป็นต้นไป
สำหรับค่าโดยสารที่มีการปรับใหม่ดังนี้ รถเมล์ธรรมดา ครีม-แดง จากราคา 4 บาทปรับเป็นราคา 5 บาทตลอดสาย รถเมล์ธรรมดาขาว-เขียว จากราคา 5 บาท ปรับเป็นราคา 6 บาทตลอดสาย ส่วนรถเมล์ปรับอากาศ ครีม-น้ำเงิน รถปรับอากาศใช้ก๊าซ NGV และรถปรับอากาศพ่วง จากราคา 8-16 บาท เพิ่มอีกระยะทางละ 1 บาท เป็น 9-17 บาท และรถเมล์ปรับอากาศ ยูโรทูและรถเมล์ปรับอากาศสีฟ้าของรถเอกชนร่วมบริการ จากราคา 10-20 บาท เพิ่มอีกระยะทางละ 1 บาท เป็นราคา 11-21 บาท รถมินิบัสจากเดิมราคา 3.50 บาท ปรับเป็นราคา 4.50 บาท สำหรับรถเมล์วิ่งผ่านทางด่วนพิเศษ รถเมล์บริการตลอดคืน จะปรับราคาอีก 1 บาทเช่นกันส่วนค่าธรรมเนียมรถเมล์ผ่านทางด่วนและรถบริการตลอดคืนไม่มีการปรับเพิ่ม
สำหรับผู้โดยสารที่ใช้คูปองตั๋วโดยสารโดยซื้อล่วงหน้าเก็บไว้ ยังคงใช้ได้ตามปกติ โดยตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2548 เป็นต้นไป ให้ใช้คูปองตั๋วโดยสารราคาเดิมบวกเงินเพิ่มอีก 1 บาท ซึ่งพนักงาเก็บค่าโดยสารจะฉีกตั๋วราคา 1 บาทเพิ่มให้
ผู้อำนวยการ ขสมก. เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับรถมินิบัส กระทรวงคมนาคมได้อนุมัติให้ปรับราคาพร้อมกับรถเมล์ใหญ่ครั้งนี้ด้วย โดยให้เก็บค่าโดยสารในราคากำหนดใหม่ที่ปรับขึ้นอีก 1 บาท เป็นราคา 4.50 บาท ในวันที่ 2 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป โดยขณะนี้ตั๋วรถเมล์ที่ปรับราคาใหม่ของรถมินิบัสยังอยู่ระหว่างการจัดพิมพ์ ดังนั้น พนักงานเก็บค่าโดยสารจะฉีกตั๋วราคาเก่า 3.50 บาทแทนตั๋วราคา 4.50 บาท และจะฉีกตั๋วราคา 5 บาทแทนตั๋วราคา 6 บาทในเส้นทางรถมินิบัสบริการตลอดคืนไปก่อน ทั้งนี้ ขสมก.สั่งกำชับว่า ห้ามเก็บค่าโดยสารเกินราคา ซึ่งอาจจะอ้างว่าไม่มีสตางค์ทอน .50 บาท เมื่อผู้โดยสารจ่ายเงิน 5 บาท ซึ่งหากมีการร้องเรียนทาง ขสมก.จะลงโทษพักรถ จนถึงยกเลิกสัญญาทันที
ปัจจุบันต้นทุนค่าโดยสารต่อคนของรถเมล์ ขสมก. แยกเป็นรถโดยสารธรรมดา ครีม-แดง ก่อนปรับราคาค่าน้ำมัน ต้นทุนอยู่ที่ 8.87 บาทต่อคน ขสมก.เก็บค่าโดยสาร 4 บาท หลังปรับค่าน้ำมัน ต้นทุนเพิ่มขึ้นเป็น 9.21 บาทต่อคน เก็บค่าโดยสาร 5 บาท รถโดยสารปรับอากาศต้นทุนค่าโดยสารก่อนปรับราคาต้นทุนอยู่ที่ 19.78 บาทต่อคน หลังปรับราคาค่าน้ำมันต้นทุนเพิ่มขึ้นเป็น 20.70 บาทต่อคน สำหรับรายได้ค่าโดยสารปัจจุบันเฉลี่ย 16 ล้านบาทต่อวัน หลังจากมีการปรับค่าโดยสารเพิ่มอีก 1 บาท คาดว่า ขสมก.จะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 1.99 ล้านบาทต่อวัน ส่วนรายจ่ายค่าน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นอีกประมาณวันละ 1.2 ล้านบาท หรือ 20.38% ซึ่ง ขสมก.ใช้น้ำมันดีเซลประมาณ 4 แสนลิตรต่อวัน--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ