วัยรุ่นคิดคลั่งขาว ฉีดกลูต้าไธโอน เสี่ยงตาบอด!

พฤหัส ๓๑ ตุลาคม ๒๐๑๓ ๑๓:๔๓
“สมัยนี้สวยไม่สวยไม่สำคัญ ขอแค่ขาวใสไว้ก่อนก็มีชัยไปกว่าครึ่ง” ดูเหมือนแนวคิดนี้ยังคงเป็นกระแสนิยมของสังคมไทยในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มคลั่งกระแสความขาวแบบหนุ่มสาวเกาหลี ที่เลือกใช้วิธีการฉีดสารกลูตาไธโอนเข้าร่างกายเพื่อหวังเร่งขาว

พญ.โสมสราญ วัฒนะโชติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยา จากมูลนิธิพิทักษ์ดวงตาประชาชน กล่าวว่า ในวงการแพทย์ยืนยันอย่างแน่ชัดแล้วว่าสารกลูต้าไธโอน นั้นไม่ใช่สารที่จะสามารถฉีดเพื่อทำให้เกิดความขาวแก่ผิวหนังได้แต่อย่างใด ซึ่งเกิดจากความเข้าใจแบบผิด ๆ เนื่องจากสารชนิดนี้ถูกใช้ในกลุ่มคนไข้โรคตับอักเสบ โดยให้กลูต้าไธโอนเป็นสารโปรตีนเบื้องต้น ช่วยกระตุ้นการฟอกพิษ ขจัดสารพิษออกจากร่างกาย สารกลูต้าไธโอนจะเป็นตัวช่วยในการซ่อมแซมฟื้นฟูสภาพของเนื้อเยื่อตับและช่วยให้มีภูมิต้านทานดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้เชี่ยวชาญระหว่างการใช้

ผลข้างเคียงของกลูต้าไธโอน อาทิ การยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวหรือที่เรียกว่าเมลานิน (Melanin) นี้เองที่ทำให้หลายคนนำมาประยุกต์ในการดูแลผิวพรรณตนเอง แต่รู้หรือไม่ว่าผลข้างเคียงที่ร้ายแรงกว่า ที่ตามมานั้นคือ หากใช้บ่อยมากเกินความจำเป็นจะทำให้อันตรายถึงขั้นตาบอดได้เลยทีเดียว

การฉีดก ลูต้าไธโอนนอกจากจะทำให้เม็ดสีผิวของคนเราที่สร้างมาจากเซลล์สร้างเม็ดสี (เมลาโนไซต์) ในผิวหนัง ลดลงแล้วยังเปรียบเหมือนการลดแผ่นกรองแสงผิวหนัง ที่ทำหน้าที่จับอนุมูลอิสระ หากใช้ไปมากๆ และใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานก็ยิ่งทำให้ภูมิต้านทานของผิวจะลดลง เกิดการระคายเคืองแพ้แสงแดดได้ง่ายขึ้นเสี่ยงต่อการ เป็นมะเร็งผิวหน้าได้ จนกระทั่งส่งผลต่อจอตาที่ทำหน้าที่เปิดรับแสงในการ

มองเห็นซึ่งถ้ารับสารกลูต้าไธโอนเยอะเกินไปจะทำให้จอประสาทตาอักเสบจนถึงขั้นทำให้ตาบอดได้ดังที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเอง

ทั้งนี้ คนเราย่อมมีสีผิวที่แตกต่างกันในแต่ละคน ความงามจากภายในคือสิ่งสำคัญที่สุด การใช้สารกลูต้าไธโอนเพื่อทำให้ผิวขาวนั้นก็เป็นเพียงผลชั่วระยะหนึ่งเท่านั้นเมื่อสารหมดฤทธิ์ผิวก็จะกลับมามีสีผิวเหมือนเดิม อีกทั้งยังทิ้งสารตกค้างในร่างกายให้เกิดโรคภัยต่าง ๆ ตามมาให้กังวลใจ ดังนั้น หากวัยรุ่นไทยอยากสร้างความมั่นใจให้แก่ตนเองก็ควรจะสร้างจากภายในดีกว่า เพียงแค่รู้จักเสียเงิน เสียเวลาให้กับสิ่งที่เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างเช่นการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ กินผักผลไม้ วิตามิน บำรุงผิวพรรณให้สดใส ออกกำลังกาย ดื่มน้ำสะอาดเยอะ ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ เพียงเท่านี้ จากร่างกายภายในสุขภาพดีก็จะส่งผลออกมาภายนอกให้ได้เห็นในแบบถาวรกันแล้ว พญ.โสมสราญ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ