ทั้งนี้กองทุน SCB Retirement มีนโยบายการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ประเภทต่างๆ (Asset Allocation) อาทิ หุ้น ตราสารหนี้ ตราสารหนี้กึ่งทุน เงินฝาก หน่วยลงทุนของกองทุนทั้งในและต่างประเทศ อาทิ กองทุนรวมทองคำ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรือ กองทุนอีทีเอฟ เป็นต้น ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในหุ้นได้ตั้งแต่ร้อยละ 0-100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุนรวม ขณะเดียวกันอาจลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 79% ซึ่งกองทุนจะทำ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนของหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินในสกุลเงินต่างประเทศที่กองทุนถืออยู่เทียบกับสกุลเงินบาท ณ ขณะใดขณะหนึ่งไม่น้อยกว่า 90%
สำหรับรูปแบบการลงทุนนั้น กองทุนจะปรับสัดส่วนการลงทุนในตราสารประเภทต่างๆ ให้เหมาะสมตามช่วงระยะเวลาการลงทุนหรือตามความเหมาะสมกับสภาวะการลงทุนในแต่ละขณะ เพื่อมุ่งหวังผลตอบแทนในระยะปานกลางถึงระยะยาวสูงกว่าดัชนีตัวชี้วัดที่กำหนด โดยในช่วงแรก การลงทุนของทั้ง 3 กองทุน ได้แก่ กองทุน SCB Retirement Year 2566 จะลงทุนในหุ้นไม่เกิน 50% ซึ่งใช้เกณฑ์มาตรฐานคือ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสัดส่วน 32% , TBMA Government Bond Index Maturity 1-3 ปี สัดส่วน 34% และดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี วงเงิน 1 ล้านบาท สัดส่วน 34% กองทุน SCB Retirement Year 2576 จะลงทุนในหุ้นไม่เกิน 75% ซึ่งใช้เกณฑ์มาตรฐานคือ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สัดส่วน 58% , TBMA Government Bond Index Maturity 1-3 ปี สัดส่วน 21% และดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี วงเงิน 1 ล้านบาท สัดส่วน 21% กองทุน SCB Retirement Year 2586 จะลงทุนในหุ้นไม่น้อยกว่า 75% ซึ่งใช้เกณฑ์มาตรฐานคือ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สัดส่วน 90% , TBMA Government Bond Index Maturity 1-3 ปี สัดส่วน 5% และดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี วงเงิน 1 ล้านบาท สัดส่วน 5%
นางโชติกา กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ลงทุนมีความสนใจวางแผนการเงินสำหรับเกษียณมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่า กองทุน SCB Retirement Year จะสามารถตอบโจทย์และเป็นหนึ่งในทางเลือกสำหรับการลงทุนได้ โดยกองทุนนี้เหมาะกับผู้ต้องการออมเงินเพื่อการเกษียณอายุที่ไม่มีเวลาติดตามภาวะเศรษฐกิจและตลาดเงิน ตลาดทุนอย่างใกล้ชิด โดยผู้ลงทุนเพียงเลือกระยะเวลาในการลงทุน 10 ปี 20 ปี หรือ 30 ปี และมีวินัยลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่ผู้จัดการกองทุนจะดูแลปรับลดความเสี่ยงของกองทุนให้อัตโนมัติตามระยะเวลา โดยเน้นสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงในช่วงแรกและค่อยๆ ปรับลดระดับความเสี่ยงลงเมื่อใกล้ถึงเป้าหมายวันเกษียณอายุเพื่อเน้นรักษาความมั่งคั่งที่สั่งสมมา นอกจากนี้ผลตอบแทนของการลงทุน ในกองทุนดังกล่าวยังไม่เสียภาษีสำหรับบุคคลธรรมดา
สำหรับผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6