ด้านนายอภิชาต จงสุกล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวทางการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าวที่ไม่เหมาะสมเป็นอ้อยโรงงานแทนนั้น ให้สอดคล่องกับนโยบายของรัฐบาลและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจน โดยได้รับความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทย และกระทวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนและคอยสนับสนุนเกษตรกรที่จะเปลี่ยนมาปลูกอ้อยแทนการปลูกข้าว อีกอย่างเป็นการแก้ปัญหาที่ดินที่ไม่เหมาะสมต่อการปลูกพืช ทำให้เกิดปัญหาดินต่างๆตามมา ในขณะนี้จังหวัดบุรีรัมย์เป็นจังหวัดแรกที่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนนาข้าวเป็นไร่อ้อย โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 2 หมื่นไร่ ที่ทำการปลูกอ้อยแทนการปลูกข้าวแล้ว สำหรับพื้นที่ Zooning ในจังหวัดอื่นๆนั้น กำลังมีการขับเคลื่อนของภาครัฐและเอกชนอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ทันในช่วงฤดูกาลการปลูกอ้อยที่จะมาถึงเร็วๆนี้
ทั้งนี้ กรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่คอยสนับสนุนให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เหมาะสมกับพืช ตามนโยบายของรัฐบาลและเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งกรมพัฒนาที่ดินพร้อมให้การช่วยเหลือเกษตรกรในเรื่องต่างๆของดิน เช่น การปรับปรุงบำรุงดิน ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดต่างๆ และเทคโนโลยีชีวภาพปุ๋ย พ.ด. รวมถึงการอนุรักษ์ดินและน้ำ เป็นต้น
โดยเกษตรกรสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักวิจัยและพัฒนาการจัดการที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม.10900 โทร 0-2579-0111 ต่อ2248, 2250 call center 1760 และ ทางเว็บไซต์www.ldd.go.th