มร. โกะ อิง ลอก ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลกกล่าวว่า “โครงการเมกะโปรเจคต์ ของรัฐบาล อัน ประกอบด้วย โครงการต่างๆจำนวน 53 โครงการ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2.27 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 66.29 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี พศ. 2563 นั้น หากมองในมุมของ Urbanization นับว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้มากขึ้น”
“Urbanization หรือ การขยายตัวของความเป็นเมือง คือหนึ่งในเมกะเทรนด์ ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากทุกๆฝ่ายในปีนี้ ปัจจุบัน สังคมเมืองมีอยู่ในทุกๆที่ ซึ่งประเทศไทยก็เริ่มเห็นบ้างแล้ว เราจะเห็นว่าหัวเมืองใหญ่ อาทิ เชียงใหม่ ขอนแก่น มีทุกอย่างเหมือนกรุงเทพ ทำให้สามารถให้บริการแบบสังคมเมืองได้มากขึ้น”
“ในอีก 10 ปีข้างหน้า เราจะเห็นการบูรณาการกันของพื้นที่เมืองใหญ่และพื้นที่ในเขตชานเมือง ซึ่งจะเป็นผลมาจากการขยายตัวของเมืองที่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึง การขยายตัวของระบบรถไฟต่างๆ ที่จะทำให้การเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพมหานครและหัวเมืองใหญ่ต่างๆ อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย นครราชสีมา ขอนแก่น สงขลา ภูเก็ต เป็นไปอย่างคล่องตัว”
“อาจกล่าวได้ว่าเมกะโปรเจคต์นี้มีส่วนช่วยในการเพิ่มผลผลิตของประเทศ เนื่องจากประชาชนสามารถนำเวลาที่เหลือจากการเดินทางไปใช้ในการทำงานมากขึ้น อีกด้วย” มร. โกะ อิง ลอก กล่าวปิดท้าย