ดร. ธัชพงษ์ โหตรภวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีคาร์ทสตูดิโอ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบ พัฒนาและให้คำปรึกษาทางด้านระบบ Web-Based Application และระบบ Enterprise Location-Based Application แบบครบวงจรในเครือล็อกซเล่ย์ เปิดเผยว่า ตลาดซอฟต์แวร์ไทยกำลังเป็นที่ยอมรับของลูกค้าทั้งภายในและต่างประเทศมากขึ้น ทำให้การแข่งขันมีความดุเดือดพอสมควร ในส่วนของบริษัท อีคาร์ทสตูดิโอฯ เพิ่งเข้ามาในตลาดได้ไม่นาน จึงต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าเป็นสำคัญ โดยบริษัทฯ มีนโยบายในการค้นคว้าทดลองใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อช่วยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ๆอยู่เสมอ ที่ผ่านมาบริษัทสามารถคว้ารางวัลการประกวดซอฟต์แวร์จากหลายสถาบัน ส่งผลให้สินค้าและบริการของอีคาร์ทสตูดิโอฯ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าองค์กร หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนขนาดใหญ่ต่างๆ
ล่าสุด “โปรแกรมประยุกต์เพื่อบริหารจัดการเครือข่ายข้อมูลบนแผนที่ออนไลน์” หรือ Location Based Information System (LBIS) ของบริษัท อีคาร์ทสตูดิโอฯ ได้คว้ารางวัลชนะเลิศประเภทบุคคลทั่วไปหรือนิติบุคคล ในการแข่งขัน “รางวัลเจ้าฟ้าไอที รัตนราชสุดา สารสนเทศ” รางวัลพระราชทานอันทรงเกียรติ ครั้งที่ 8 จัดโดยมูลนิธิวิจัยเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนงานวิจัย พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศไทยให้มีความก้าวหน้าทัดเทียมระดับสากล และให้สามารถนำมาพัฒนาเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศหรือพัฒนาในเชิงธุรกิจ รวมทั้งเพื่อสนับสนุนให้มีการพัฒนาบุคลากรทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างกว้างขวางทั้งภาครัฐและเอกชน
นอกจากนี้ บริษัท อีคาร์ทสตูดิโอฯ ยังได้รับอีก 2 รางวัลจากโครงการประกวดผลงานซอฟต์แวร์ดีเด่นแห่งชาติ TICTA 2013 หรือ Thailand ICT Awards 2013 จัดโดยสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้า ภายใต้สังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย ซึ่งผลงานที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ ทั้ง 2 ประเภทได้แก่ 1.ระบบ ECART MAP Engine ได้รับรางวัลรองชนะเลิศประเภท Tools and Infrastructure Application 2. ระบบ Fire Block Intelligence System (FBIS) ได้รับรางวัลรองชนะเลิศประเภท Financial Industry Applications
“จากความสำเร็จในเวที TICTA ดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ ได้สิทธิ์เข้าร่วมประกวดต่อในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ Asia Pacific ICT Alliance (APICTA) Awards ซึ่งปีที่แล้ว ผลงาน LBIS ของบริษัทฯ ได้คว้ารางวัลชนะเลิศ ในประเภท Tools and Infrastructure จากการเข้าร่วมประกวดที่จัดขึ้น ณ ประเทศ บูรไน” ดร.ธัชพงษ์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีคาร์ทสตูดิโอฯ กล่าวถึงจุดแข็งว่า อีคาร์ทสตูดิโอฯ เน้นเรื่องการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยแต่ละปีจะใช้งบประมาณ 10-15 ล้านบาทในการวิจัยและพัฒนา และด้วยบุคคลากรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูง ประกอบกับมี ระบบแผนที่ (Map Engine) เป็นของตัวเอง ทำให้บริษัทสามารถออกแบบแอพพลิเคชั่นให้ทำงานร่วมกับระบบแผนที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างบริการได้หลากหลาย เหนือคู่แข่ง
สำหรับผลประกอบการในปีที่ผ่านมา คาดว่าสิ้นปีนี้ยอดขายจะอยู่ที่ประมาณ 80 ล้านบาท ส่วนปีหน้าตั้งเป้าเติบโตขึ้นอีก 30-50% โดยบริษัทฯจะใช้กลยุทธ์ร่วมมือกับพันธมิตรในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อให้มีบริการครบถ้วนตามความต้องการของลูกค้าและสามารถรองรับงานโครงการที่ใหญ่ขึ้นด้วย ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานภาครัฐ ประมาณ 75% และภาคเอกชน 25%
ดร.ธัชพงษ์ กล่าวอีกว่า ทิศทางตลาดซอฟต์แวร์มีอนาคตสดใสขึ้น เพราะตลาดให้การยอมรับซอฟต์แวร์ไทยกันมากขึ้น ขณะเดียวกับภาครัฐ อาทิเช่น สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และซอฟต์แวร์พาร์ค ก็ให้การสนับสนุนส่งเสริมด้วยการจัดเวทีประกวด และมอบทุนวิจัยสนับสนุนให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมทั้งติดตามผลในการนำผลิตภัณฑ์ไปต่อยอดในเชิงธุรกิจให้สำเร็จ ถือเป็นการช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันให้บริษัทซอฟต์แวร์ไทยได้เตรียมความพร้อมก่อนจะก้าวเข้าสู่ AEC ซึ่งเป็นทั้งโอกาสที่จะได้ขยายตลาดไปในภูมิภาคมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงที่จะเจอคู่แข่งมากขึ้นด้วย
“บริษัท อีคาร์ทสตูดิโอฯ มีแผนบุกตลาดในภูมิภาคด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งจะต้องมองหาพันธมิตรทางธุรกิจในท้องถิ่นนั้นๆ เพื่อมาช่วยในการทำตลาด โดยจะเริ่มที่ประเทศใน AEC ก่อน” ดร.ธัชพงษ์ กล่าว