“WHAPF” พร้อมเพิ่มทุนครั้งที่ 3 กว่า 4 พันล้าน เตรียมเสนอขาย พ.ย.นี้ บลจ. กสิกรไทย ยกขบวน 5 คลังสินค้าทำเลเยี่ยมลงทุนเพิ่ม คาดโอกาสทำกำไรพุ่ง

จันทร์ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๐๑๓ ๑๒:๕๐
บลจ. กสิกรไทย เดินหน้าเพิ่มทุนกองทุน “WHAPF” ครั้งที่ 3 อีกกว่า 4 พันล้านบาทเตรียมคว้าคลังสินค้าชั้นนำและศูนย์กระจายสินค้าบนทำเลยุทธศาสตร์ขนส่งเข้าพอร์ต ดันโอกาสรับผลตอบแทนเพิ่มอีก หลังกองทุนโชว์ผลการดำเนินงานดีต่อเนื่อง เปิดจองซื้อ พ.ย.นี้

นายประเสริฐ ขนบธรรมชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ. กสิกรไทย เตรียมเปิดให้จองซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (WHAPF) แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิม ในวันที่ 12 — 14 พฤศจิกายน 2556 และสำหรับผู้ลงทุนทั่วไปในวันที่ 18 - 22 พฤศจิกายน 2556 โดยจะระดมทุนเพิ่มอีก 4,056 ล้านบาท เพื่อขยายการลงทุนไปในกรรมสิทธิ์ที่ดินและอาคารคลังสินค้าอีกจำนวน 5 โครงการและโครงการระบบปรับอากาศ 1 โครงการ ได้แก่ โครงการ WHA Mega Logistics Center บนถนนบางนา-ตราด ก.ม.19 ขนาดพื้นที่ประมาณ 57,399 ตารางเมตร โครงการ DSG เฟส 1 และ เฟส 2 ในเขตประกอบการเหมราช จ.สระบุรี ขนาดพื้นที่ประมาณ 55,372 ตารางเมตร โครงการ Ducati เฟส 2 ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ระยอง ขนาดพื้นที่ประมาณ 12,835 ตารางเมตร โครงการคลังสินค้า DKSH 3M เฟส 2 บริเวณถนนบางนา-ตราด ก.ม.20 ขนาดพื้นที่ประมาณ 9,195 ตารางเมตร และโครงการ WHA Mega Logistics Center บริเวณ อ.พานทอง จ.ชลบุรี (ติดนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร) ขนาดพื้นที่ประมาณ 38,565 ตารางเมตร สำหรับโครงการระบบปรับอากาศเป็นการลงทุนเพิ่มเติมในระบบปรับอากาศของโครงการ Healthcare บนถนนบางนา-ตราด ซึ่ง บลจ. กสิกรไทย เชื่อมั่นว่าโครงการในกลุ่มดังกล่าวจะได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของเศรษฐกิจรวมทั้งการบริโภคในประเทศที่เพิ่มขึ้น และการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้กองทุนมีรายได้เพิ่มอย่างสม่ำเสมอจากสัญญาเช่าระยะยาวและการกระจายกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายยิ่งขึ้นซึ่งจะเป็นโอกาสให้ผู้ลงทุนรับผลตอบแทนที่น่าสนใจในระยะยาวต่อไป

“คลังสินค้าทั้ง 5 โครงการที่กองทุน WHAPF เตรียมจะลงทุนหลังจากดำเนินการเพิ่มทุนครั้งนี้ จะเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ลงทุน เพราะนอกจากจะทำสัญญาเช่าระยะยาวกับผู้เช่ารายใหญ่ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลแล้ว ยังมีจุดเด่นที่ทำเลที่ตั้ง ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ด้านขนส่งและโลจิสติกส์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยอาคารคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้ารวมถึงอาคารโรงงานที่กองทุนรวมจะเข้าลงทุน มีทั้งรูปแบบที่เป็น Built to suit และ General Warehouse ซึ่งได้รับการก่อสร้างตามมาตรฐานสากล บริหารงานโดยบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้านธุรกิจคลังสินค้าและโรงงานที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ทำให้มั่นใจได้ว่าอาคารคลังสินค้าที่กองทุนจะเข้าลงทุนทั้ง 5 โครงการจะสามารถรักษาอัตราการเช่าเต็มพื้นที่ได้จนครบกำหนดสัญญาเช่า ทั้งยังมีโอกาสสูงมากที่ผู้เช่าจะต่อสัญญาออกไปอีกเมื่อครบอายุสัญญา” นายประเสริฐกล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของกองทุน WHAPF นายประเสริฐกล่าวว่า กองทุนมีผลการดำเนินงานที่ น่าพอใจอย่างต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในเดือนธันวาคมปี 2553 กองทุนได้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนรวมแล้ว 10 ครั้ง เป็นจำนวนเงินปันผลทั้งสิ้น 1.8872 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเฉลี่ยที่ประมาณ 7.20 % ต่อปี มูลค่าเงินปันผลรวมทั้งสิ้นประมาณ 555 ล้านบาท ซึ่งบลจ. กสิกรไทย เชื่อว่าการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะส่งผลให้กองทุนยิ่งมีการกระจายรายได้ระยะยาวที่สม่ำเสมอและเป็นประโยชน์แก่ผู้ลงทุนในแง่โอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจต่อไป

ปัจจุบันกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (WHAPF) มีการลงทุนในอาคารคลังสินค้าและอาคารโรงงานรวม 9 โครงการ ประกอบด้วยโครงการคลังสินค้า 7 โครงการ ได้แก่ โครงการคลังสินค้า Kao 1 , Kao 2 และโครงการคลังสินค้า Kao 3 ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี พร้อมด้วยอาคารคลังสินค้า DKSH (หรือดีทแฮล์มเดิม) จำนวน 4 โครงการ ได้แก่ โครงการคลังสินค้า DKSH ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โครงการคลังสินค้า DKSH Consumer โครงการคลังสินค้า DKSH 3M และโครงการคลังสินค้า Healthcare บริเวณ ถ.บางนา-ตราด กม.20 (ใกล้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) และยังมีโครงการโรงงานอีก 2 โครงการ คือ โครงการโรงงาน Primus และโครงการโรงงาน Ducati ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ. ระยอง ซึ่งทุกโครงการยังคงมีผู้เช่าเต็มพื้นที่ โดยคิดเป็นมูลค่าโครงการเดิมประมาณ 5,252 ล้านบาท และภายหลังดำเนินการเพิ่มทุนแล้วจะส่งผลให้กองทุนจะมีขนาดโครงการประมาณ 9,308 ล้านบาท

สำหรับการเสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มทุนครั้งที่ 3 ของกองทุน WHAPF ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมสามารถจองซื้อได้ตามสัดส่วนการถือหน่วยลงทุนในวันที่ 12 — 14 พฤศจิกายน 2556 ในราคาหน่วยลงทุนละ 9.80 บาท โดยจะได้สิทธิจองซื้อในอัตราส่วน 1 หน่วยลงทุนเดิมต่อ 0.5516 หน่วยลงทุนใหม่ สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปสามารถจองซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มทุนของกองทุน WHAPF ได้ในวันที่ 18 - 22 พฤศจิกายน 2556 ในราคาหน่วยลงทุนละ 9.80 โดยมีกำหนดขั้นต่ำที่ 5,000 หน่วย และจองซื้อเพิ่มได้เป็นทวีคูณของ 100 หน่วย ผู้ที่สนใจลงทุนสามารถขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยลงทุนและจองซื้อหน่วยลงทุนได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Call Center 0 2673 3888

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ