กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--ไอเดียลิสท์ คอมมิวนิเคชั่นส์
นักลงทุนอิตาลีกว่า 30 บริษัท เตรียมยกทัพลงทุนไทย พร้อมนำระบบ คลัสเตอร์ โมเด็ล ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในอิตาลี มาใช้กับธุรกิจแฟชั่นเสื้อผ้า และอาหารของไทยเพื่อแข่งขันในตลาดโลก
นางฟลาเวีย ฟาร์รุชจิโอ ทูตพาณิชย์ สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน ประจำประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการประชุมการร่วมเจรจาข้อตกลงการค้าการลงทุนระหว่างรัฐบาลไทยและอิตาลีระหว่างวันที่ 10 — 11 พฤศจิกายน 2548 ซึ่งนำโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย และนายอะดอลโฟ อูรโซ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมของประเทศอิตาลี โดยได้ผลสรุปอย่างเป็นทางการว่า รัฐบาลอิตาลีและไทยได้ลงนามในบันทึกความตกลง (MOU) ร่วมกัน 5 ฉบับ ประกอบด้วย
1. บันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และสถาบันเพื่อการค้าต่างประเทศของอิตาลี (ICE)
2. บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง BOI และสถาบันการเงินของอิตาลี เพื่อการพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจของอิตาลีในต่างประเทศ (SIMEST)
3. บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสถาบันอาหารของไทยและสถาบันเพื่อการค้าต่างประเทศของอิตาลี (ICE) ว่าด้วยความร่วมมือในเรื่องการส่งเสริมและการตลาดอาหารไทย และอิตาลีในระดับระหว่างประเทศ
4. บันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่าง 4 ฝ่าย ได้แก่ หอการค้าไทย-อิตาลี บริษัทส่งเสริมการค้าเอสเอ็มอี จำกัด (STP) บริษัทอุตสาหกรรมขนมไทย และศูนย์ทดลองเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารและการเกษตรเพื่อส่งเสริมสินค้า OTOP และ SMEs
5. บันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่างบริษัท ซาร่า กรุ๊ป จำกัด และ MDA เพื่อพัฒนาธุรกิจการให้คำปรึกษา
ทูตพาณิชย์ สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน ประจำประเทศไทย กล่าวด้วยว่า รัฐบาลอิตาลีและภาคเอกชนพร้อมที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาเอสเอ็มอีของไทยเป็นการเร่งด่วน 2 สาขา หลัก คือ ด้านสิ่งทอ เสื้อผ้า แฟชั่น และอาหารที่มาจากผลิตผลทางเกษตร เนื่องจากพบว่ามีบริษัทไทยที่สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและแรงงานที่มีฝีมือในการพัฒนาระบบการผลิต ทั้งนี้อิตาลีจะนำเอาโมเดลต้นแบบของอิตาลีที่เรียกว่า “อินดัสเตรียล คลัสเตอร์ โมเดล” มาใช้พัฒนาบริษัทเอกชนของไทย ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในอิตาลี ซึ่งปัจจุบันมีคลัสเตอร์ในลักษณะนี้กว่า 200แห่งโดยเฉพาะภาคกลางและภาคเหนือของประเทศอิตาลี
“จากการเจรจาคณะผู้แทนการค้าการลงทุนภาคเอกชนนั้น คาดว่า กลุ่มบริษัทที่เดินทางเข้ามา 40 กว่าบริษัทปรากฏว่ามีจำนวนถึง 20 -30 บริษัทของอิตาลีมากกว่า 50 % สนใจเข้ามาร่วมลงทุนในไทย โดยจะนำเอาโปรแกรม อินดัสเตรียล คลัสเตอร์ โมเด็ล อิตาลีมาใช้ผลิตสินค้ายี่ห้อชั้นนำส่งขายทั่วโลก”
ทูตพาณิชย์ สำนักงานพาณิชย์อิตาเลียน ประจำประเทศไทย กล่าวต่ออีกว่า บริษัทอิตาเลียนมีความต้องการลงทุนในประเทศไทยเพราะนอกจาก ด้านสังคม วัฒนธรรม ความมั่นคงทางการเมือง แล้วความสามารถทักษะของคนไทยสูงสอดคล้องกันได้ดีในลงทุนด้วยกันมากกว่าการลงทุนในประเทศจีน เวียตนามหรือประเทศอื่น ๆ ในแถบนี้
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--