“ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/56 ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี เพราะเป็นการบริหารท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอลง ประกอบกับราคาน้ำตาลตลาดโลกขณะนี้ที่เริ่มทรงตัว ซึ่งปัจจุบัน KBS มีสัดส่วนการจำหน่ายในต่างประเทศร้อยละ 75 อย่างไรก็ดี ส่วนที่เหลือเป็นการจำหน่ายในประเทศ ด้วยศักยภาพการดำเนินธุรกิจ ทั้งในด้านวิสัยทัศน์ แผนงาน การบริหารต้นทุน และบุคลากร ได้ช่วยเสริมความเชื่อมั่นและผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น เพื่อการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ สู่ความสำเร็จอย่างไม่หยุดยั้ง ในฐานะผู้นำทางธุรกิจ”
นายทัศน์ กล่าวต่อถึงกลยุทธ์บริษัทฯ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ยังคงให้ความสำคัญกับแผนด้านการตลาด จากก่อนหน้านี้ที่ได้มีการเสริมทัพความแข็งแกร่ง โดยการปรับโครงสร้างองค์กร รองรับการขยายงาน รวมทั้งได้ทีมจากกลุ่มมิตซุย ประเทศญี่ปุ่น และทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจน้ำตาลเข้ามาช่วยผนึกกำลังเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง โดยบริษัทฯ จะได้รับประโยชน์ ทั้งในด้านการตลาดที่จะสามารถขยายตลาดเพิ่มขึ้นในประเทศต่างๆ รวมถึงการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558
“ขณะนี้กำลังเริ่มเข้าสู่ฤดูการเปิดหีบปี 56/57 ช่วงเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งคาดว่าบริษัทฯ จะหีบอ้อยได้มากกว่าปีก่อนซึ่งมีปริมาณอ้อยเข้าหีบ 2.54 ล้านตัน เนื่องจากสภาวพอากาศปีนี้ที่ฝนตกดีกว่าปีก่อน ประกอบกับบริษัทฯ มีการเตรียมความพร้อมทั้งเครื่องจักรและโรงไฟฟ้าใหม่ ซึ่งจะช่วยเสริมประสิทธิภาพของโรงงานน้ำตาลให้สูงขึ้น”
เขากล่าวในช่วงท้ายถึงความคืบหน้าของธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลของ "บริษัท ผลิตไฟฟ้าครบุรี จำกัด" ซึ่งจะผลิตไฟฟ้าจากกากอ้อย กำลังการผลิต 35 เมกกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 1,638 ล้านบาท มีกำหนดเริ่มขายไฟให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ประมาณเดือนเมษายน ปี 2557 และคาดว่าจะช่วยผลักดันผลประกอบการบริษัทฯ สู่เป้าหมายความสำเร็จที่หวังไว้