นายกฤษฎา โพธิสมภรณ์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ. ศรีราชาคอนสตรัคชั่น หรือ SRICHA เปิดเผยว่า “บริษัทฯ มีผลประกอบการที่เติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 3 บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากงานที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ทำให้มีรายได้รวม 775 ล้านบาท มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนจาก 450 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 72 % และมีกำไรสุทธิ 350 ล้านบาท มากกว่าไตรมาส 2 ปีนี้ ที่มีกำไรสุทธิ 157 ล้านบาท ถึง 123% และมากกว่ากำไรสุทธิในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 193 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 81.5% ทำให้ SRICHA มีกำไรต่อหุ้น (EPS) ใน 9 เดือนแรกสูงถึง 2.11 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานรวมของบริษัทฯ สำหรับงวดเก้าเดือนแรกของปี 2556 SRICHA มีกำไรสุทธิในเก้าเดือนแรกปี 2556 เท่ากับ 642 ล้านบาท และมีรายได้รวม 1,853 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนจากรายได้รวม 1,578 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.5 % โดยสาเหตุหลักมาจากการรับรู้รายได้มากขึ้น (ใช้วิธีรับรู้รายได้ตามสัดส่วนของความสำเร็จของงาน)”
นายฉัตรมงคล เขมาภิรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บมจ. ศรีราชาคอนสตรัคชั่น หรือ SRICHA ยังได้เปิดเผยว่า “ขณะนี้ SRICHA มีปริมาณงานในมือมูลค่ามากกว่า 1,700 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยงานก่อสร้างเครื่องกล ในประเทศเป็นส่วนใหญ่ และยังมีงานต่อเนื่องที่ประเทศมาดากัสการ์ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงอีกด้วย โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้ภายในปีนี้ และบางส่วนในปีหน้า และบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจางานรับเหมาเครื่องกลหลายโครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ โครงการในตะวันออกกลาง และ ทวีปแอฟริกา มูลค่ารวมกว่า 14,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยทราบผลการเสนองานบางโครงการภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้บริษัทฯ มีทีมงานวิศวกรที่มีความชำนาญงานเฉพาะด้าน และมีประสบการณ์ระดับสูง ในการทำงานโครงการระดับโลกหลายโครงการ มีผลงานระดับสากล เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในกลุ่มผู้รับเหมาขนาดใหญ่ระดับโลกจำนวนหนึ่งทั้ง บริษัทฯ รับเหมาใหญ่สัญชาติ อเมริกัน และบริษัทญี่ปุ่น บริษัทฯ จึงคาดว่ามีโอกาสจะได้รับงานขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง”
บริษัท ศรีราชาคอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ Sriracha Construction Public Company หรือ บมจ.ศรีราชาคอนสตรัคชั่น (SRICHA) ก่อตั้งเมื่อปี 2537 โดยนายบุญเครือ เขมาภิรัตน์ กรรมการผู้จัดการ และกลุ่มทีมงานวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญกว่า 12 ท่าน เพื่อดำเนินธุรกิจงานก่อสร้างโลหะ ในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ (Mechanical Construction) แบบครบวงจร ได้แก่ งานออกแบบ รายละเอียดทางวิศวกรรม งานจัดหาวัตถุดิบในการผลิต โดยมุ่งเน้นการรับงานก่อสร้างโลหะใน โรงงานอุตสาหกรรมเป็นหลักด้วยทุนจดทะเบียน 310 ล้านบาทบริษัทฯ มีจุดเด่นอยู่ที่ทีมงานวิศวกรระดับสูงที่มีประสบการณ์ในงานรับเหมา ก่อสร้างงานโลหะหรือเครื่องกลมากกกว่า 30 ปี ความสามารถใน การรับงานที่ใช้ความเชี่ยวชาญสูง และสามารถส่งมอบงานได้ตรงเวลา รวมถึงสถิติการทำงาน ก่อสร้างที่ปลอดภัยไม่มีอุบัติเหตุ และมีประสบการณ์รับเหมา ก่อสร้างโรงงานมากว่า 50 โครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมพลังงานโรงกลั่นน้ำมัน โรงไฟฟ้า โรงงานปิโตรเคมี โรงถลุงแร่ โรงงานอาหารและเกษตรขนาด ใหญ่อาทิ โครงการโรงงานถลุงแร่ที่ประเทศมาดากัสการ์ มูลค่างานกว่า 7,500 ล้านบาท โครงการโรงกลั่นน้ำมันเอกซอนโมบิล (เอสโซ) ที่ประเทศสิงคโปร์ โรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ โรงกลั่นน้ำมันเอสโซที่จังหวัดชลบุรี และงานโรงแยกแก๊ส ประเทศการ์ตาเป็นต้น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้รับความเชื่อมั่นไว้วางใจจากบริษัท รับเหมาก่อสร้างระดับโลก อาทิ บริษัทฟอสเตอร์ วีลเลอร์ และ บริษัท เบคเทล จากสหรัฐอเมริกา และบริษัท เจจีซี (JGC) จากประเทศญี่ปุ่น ขณะนี้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตโครงสร้างเหล็กระดับสูงถึง 40,000 ตันต่อปี และกำลังการผลิต และติดตั้งระบบท่อ 1,000,000 db ต่อปี