จอห์นสัน คอนโทรลส์เผยผลสำรวจในเอเชีย ชี้นโยบายรัฐบาลและความประหยัดคือปัจจัยหลักที่เจ้าของอาคารคำนึงในการพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

ศุกร์ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๐๑๓ ๑๗:๓๒
จอห์นสัน คอนโทรลส์เผยผลสำรวจในเอเชีย ชี้นโยบายรัฐบาลและความประหยัดคือปัจจัยหลักที่เจ้าของอาคารคำนึงในการพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงานผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 1,200 คนระบุปัจจัยที่ขับเคลื่อนและประเด็นที่ต้องบริหารจัดการเพื่อยกระดับประสิทธิภาพอาคารให้ดีขึ้น

ผลสำรวจดัชนีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพปี พ.ศ. 2556 (2013 Energy Efficiency Indicator — EEI) ของจอห์นสัน คอนโทรลส์ เผยเจ้าของอาคารในภูมิภาคเอเชียจะคำนึงถึงความประหยัดและนโยบายภาครัฐเป็นหลักในการจัดการประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ผลสำรวจนี้ระบุด้วยว่า ความสนใจในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในเอเชียมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่ปีพ.ศ.2553 ในขณะที่การขาดแคลนเงินทุนและการคืนทุนที่ไม่เพียงพอเป็นอุปสรรคสำคัญในการดำเนินโครงการด้านพลังงานภายในองค์กร

การสำรวจดัชนีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพครั้งนี้นับเป็นครั้งที่เจ็ด ที่มีการรวบรวมความเห็นจากเจ้าของอาคารชั้นนำเพื่อสำรวจแนวโน้มของการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจัยขับเคลื่อนที่ก่อให้เกิดการปฏิบัติและอุปสรรคที่เกิดขึ้นทั่วโลก การสำรวจครอบคลุมถึงผู้บริหารระดับสูงมากกว่า 3,000 คนใน 10 ประเทศ ในทวีปเอเชียมีการสำรวจความเห็นของผู้บริหาร 1,263 ราย ที่กำกับดูแลด้านพลังงานในอาคาร ทั้งในประเทศออสเตรเลีย จีน อินเดียและล่าสุดคือสิงคโปร์ที่เข้าร่วมการสำรวจเป็นครั้งแรก

“ผลการสำรวจในปีนี้แสดงให้เห็นว่า เจ้าของอาคารในทวีปเอเชียมีความสนใจในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ขณะเดียวกันยังชี้ให้เห็นว่านโยบายสาธารณะและการลงทุนของเอกชนจะต้องสอดคล้องกันเพื่อแปรเปลี่ยนความสนใจให้เป็นการลงมือปฏิบัติ” โซเรน เบิร์ก รองประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจด้านประสิทธิภาพอาคารของจอห์นสัน คอนโทรลส์ เอเชีย กล่าว

ปัจจัยขับเคลื่อนในตลาดเอเชีย

การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการจัดการพลังงานกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยในทวีปเอเชีย จากผลสำรวจชี้ว่าผู้บริหารจากประเทศจีน 61 เปอร์เซ็นต์ และอินเดีย 58 เปอร์เซ็นต์ มีความสนใจอย่างมากในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในระดับโลก โดยยืนยันว่าองค์กรของพวกเขาใส่ใจในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ผู้บริหารจากประเทศออสเตรเลีย 71 เปอร์เซ็นต์ และสิงคโปร์ 73 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นประเทศที่จัดอยู่ในกลุ่มประเทศซึ่งมีความอิ่มตัวทางการตลาดในภูมิภาคนี้ ระบุว่าการจัดการพลังงานมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพขององค์กรธุรกิจในภูมิภาคเอเชียคือ ความประหยัดต้นทุนทางด้านพลังงาน อันเป็นปัจจัยเดียวกันกับองค์กรธุรกิจทั่วโลก ในขณะที่แรงจูงใจ ในด้านส่วนลดและนโยบายของรัฐบาลก็มีความสำคัญเช่นกัน เห็นได้จากผลสำรวจที่พบว่าความมั่นคงด้านพลังงานถือเป็นปัจจัยหลักสำหรับจีนและอินเดีย ส่วนสิงคโปร์และอินเดียเป็นเพียงสองประเทศเท่านั้น ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์หรือภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ต่อสาธารณะมากที่สุด

ประเด็นในการบริหารจัดการ

ผลสำรวจระบุว่า อุปสรรคที่ขัดขวางการริเริ่มหาแนวทางเพื่อการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพนั้น มีความคล้ายคลึงกันทั่วโลก โดยผู้บริหารระดับสูงขององค์กรในประเทศสิงคโปร์และอินเดีย ระบุว่า อุปสรรคจากขาดแคลนเงินทุน การคืนทุนที่ไม่เพียงพอ ผลประกอบการที่ไม่มั่นคง การขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคในการดำเนินโครงการ สำหรับองค์กรธุรกิจในประเทศจีน จะพบว่า การคืนทุนที่ไม่เพียงพอเป็นอุปสรรคที่สูงสุดมากกว่าประเทศอื่น ส่วนในประเทศออสเตรเลียจะพบปัญหาทางด้านการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสูงสุด

จาก 1 ใน 4 ของผู้บริหารทั่วโลกกล่าวว่าการขาดแคลนเงินทุนเป็นอุปสรรคสูงสุดในการพัฒนาโครงการด้านประสิทธิภาพพลังงาน ซึ่งลดลงจาก 30 เปอร์เซ็นต์ในปี 2554 เป็น 26 เปอร์เซ็นต์ใน ปี 2555 ขณะเดียวกันก็มีความวิตกกังวลถึงความไม่แน่นอนในด้านความประหยัดและการดำเนินการโครงการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานเพิ่มขึ้นทั่วโลกจาก 12 เปอร์เซ็นต์ เป็น 15 เปอร์เซ็นต์

ถึงแม้ว่าตลาดทั่วทวีปเอเชียจะมีความแตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่นั้นมีความเห็นไปในทางเดียวกันว่ากันว่าแรงจูงใจอันมาจากสิทธิพิเศษด้านภาษี นับเป็นนโยบายพลังงานที่จะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด โดยประเทศออสเตรเลียให้ความสำคัญกับนโยบายรัฐบาลสูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่กฎระเบียบด้านอาคารที่เข้มงวด รวมถึงการประเมินมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศจีน ก็ช่วยส่งผลไปในที่ดี เช่นเดียวกับการสร้างสิทธิพิเศษด้านภาษี ส่วนสิงคโปร์นั้นได้ให้ความสำคัญอย่างมากกับราคาคาร์บอนเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในเอเชีย

ผลสำรวจประจำปีครั้งที่เจ็ดนี้ครอบคลุมความคิดเห็นของเจ้าของอาคารและผู้ประกอบการกว่า 3,000 แห่งทั่วโลก ดำเนินการโดยสถาบันจอห์นสัน คอนโทรลเพื่อประสิทธิภาพอาคาร ร่วมกับสมาคมการจัดการทรัพยากรอาคารระหว่างประเทศ (International Facility Management Association) และสถาบันที่ดินเมือง (Urban Land Institute)

สำหรับรายงานการสำรวจดัชนีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพประจำปี 2556 ฉบับสมบูรณ์ เข้าชมได้ที่ www.institutebe.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕:๓๒ อาลีเพย์พลัสขยายเครือข่ายพันธมิตรด้านการชำระเงินเป็น 35 ราย เชื่อมโยงผู้ค้ากับนักท่องเที่ยวเข้าด้วยกันผ่านการชำระเงินบนมือถือ การขายของในแอปพลิเคชัน
๑๕:๓๙ ยกระดับบริการหลังการขายขึ้นอีกขั้นกับ Volvo Mobile Service เพียงนัดหมาย เราพร้อมให้บริการถึงหน้าบ้านคุณ
๑๕:๓๔ ประกาศราคาไทย HUAWEI Mate X6 สมาร์ทโฟนนแบบพับได้ระดับท็อป โฉบเฉี่ยวแต่แข็งแกร่ง พร้อมกล้องเพื่อการถ่ายรูปที่สมบูรณ์แบบ
๑๕:๒๔ มหัศจรรย์แห่งเฟสทีฟกลางลมหนาว ที่ห้างหรูในยุโรปของกลุ่มเซ็นทรัล
๑๕:๑๘ บี.กริม เพาเวอร์ ครองตำแหน่งเรตติ้งสูงสุด SET ESG Rating ระดับ AAA และอยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน 7 ปีซ้อน ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ควบคู่ความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม
๑๔:๐๑ ธนาคารกรุงเทพ สำรองเงินสดช่วงเทศกาลปีใหม่ 40,000 ล้านบาท แนะลูกค้าทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
๑๔:๔๘ เที่ยวไทยสุขใจ ไทยพาณิชย์ โพรเทค มอบของขวัญปีใหม่ 2568 แจกฟรี! ประกันบ้านหรืออุบัติเหตุ 50,000 สิทธิ์
๑๕:๒๕ เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ร่วมงานเลี้ยงการกุศล ส่งเสริมความเสมอภาคและโอกาสในสังคม
๑๕:๔๗ คณะผู้บริหารและพนักงาน ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล เยี่ยมชมโรงงาน 1NUO ที่ประเทศจีน
๑๔:๔๕ TFM เปิดแผนผลิตกุ้งยั่งยืน ดันไทยชิงโอกาสในตลาดโลก ชูนวัตกรรมอาหารสัตว์เศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน