“ก่อนจะมาเล่นเรื่องนี้ พี่ธง (ธงชัย) โทรมาหาประมาณสามรอบ รอบแรกแกถามไปตีกอล์ฟกันมั้ย รอบสองไปกินข้าวกันมั้ย จนครั้งที่สามผมเลยถามว่า มีปัญหาอะไรหรือเปล่าพี่ แกก็บอกกำลังจะทำละครเรื่องนี้ ทางช่องให้หาตัวอากงให้ได้ก่อน ต้องหาให้ได้ก่อนพระเอกนางเอกอีกนะ ผมก็อ๋อละครที่พี่ตาเคยเล่นไว้ใช่มั้ย พี่ธงก็บอกใช่ๆ ผมก็บอกได้ๆ ถ้าคิวได้ผมไม่มีปัญหาเลยนะ ตัวอากงในเรื่องก็ถือเป็นตัวเดินเรื่องนะครับ เป็นคนก่อร่างสร้างธุรกิจโรงงานขึ้นมา เป็นเจ้าของสวนมะพร้าว อากงเค้าจะสนุกสนาน ขี้เล่น รักลูกรักหลานจนยอมที่จะไม่ไปผุดไปเกิด”
“ดู๋-สัญญา” ยังเล่าแบบละเอียดยิบอีกว่า กว่าจะได้ลุคส์ออกมาเป็น “อากง”อย่างที่เห็นกันในจอทีวีนั้น ลำบากยากเข็ญอยู่ไม่น้อย
“แค่วันฟิตติ้งเราก็เฮ้ย อะไรเนี่ย ต้องไปถ่ายภาพชุดจีน เราก็เอาน่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว ยังไม่พอ ยังต้องติดหนวดอีก นั่งติดหนวดอยู่เกือบสองชั่วโมง เพราะหนวดสำเร็จรูปยังไม่มา ผมก็จะแบบไม่เอาแล้ว แค่นี้ยังไม่หมดนะ ยังมีช่างหน้ามาบอกคุณดู๋ทำหน้าย่นที่สุดในชีวิตให้หน่อย เดี๋ยวจะเอากาวติดตามร่อง ผมก็ร้องเลยทีนี้ เพราะมันจะทำให้หน้าย่นแล้วไม่กลับเลยนะ (หัวเราะ) ต้องไปทำโบท็อกซ์อีกเท่าไหร่เนี่ย จนทางทีมงานก็ยอมไม่เอากาวติดตามร่องหน้า ผมคิดว่าเล่นเป็นอากงธรรมดา พี่ธงรีบบอกเลยถอนตัวไม่ได้แล้วนะ เพราะถ่ายรูปไปแล้ว ไหนจะต้องใส่ผมยาวอีก แล้วมันก็ร้อนมาก ไม่รู้หัวจะล้านหรือเปล่าเนี่ย (ยิ้ม) ทีแรกคิดว่าอากงทำไมเหมือนจอมยุทธ์ แต่เป็นเพราะทางผู้กำกับเค้าต้องการความต่าง พอแต่งออกมาเสร็จก็แฮปปี้ หน้าประหลาดดี ลำบากวันแรกๆ ไม่ชินแล้วมันก็คันด้วย แต่ตอนนี้เริ่มชินขึ้นเยอะ ตัวละครตัวนี้เป็นตัวละครที่ดีนะครับ แสดงให้เห็นถึงความผูกพันแบบรุ่นต่อรุ่น คนเป็นพ่อเป็นแม่ ยังไงก็มองเห็นว่าลูกเป็นเด็กน้อยอยู่เสมอ ทำให้อากงเค้าต้องคอยดูแลลูกหลานตลอด แม้จะตายไปแล้วก็ตาม ถือเป็นละครที่มีสีสันอีกเรื่องครับ”
ติดตามชมละคร “วิมานมะพร้าว” กันได้ทุกวันจันทร์ และ อังคาร เวลา 20.20 น.ช่อง 7 สี