ไทยดึงดูดการลงทุนใหม่จากหลายภาคธุรกิจของนิวซีแลนด์

กว่า 22 นักธุรกิจตัวแทนบริษัทชั้นนำจากนิวซีแลนด์ ด้านธุรกิจอุตสาหกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ รวมไปถึงด้านอาหารและเครื่องดื่ม จะมากระชับความสัมพันธ์ทางการค้าไทย ด้วยข้อเสนอใหม่ๆ รวมไปถึงการขยายธุรกิจมาสู่ประเทศไทย

มร. นาธาน กาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมหลัก จะเดินทางมาพร้อมกับคณะนักธุรกิจในครั้งนี้ด้วย

“นิวซีแลนด์ตระหนักถึงโอกาสทางธุรกิจในไทย ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยจำนวนบริษัทนิวซีแลนด์ที่เดินทางเข้ามาทำธุรกิจในไทยได้สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ ซึ่งนำสู่การกระชับความสัมพันธ์นี้ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น” มร. คาเรน แคมเบลล์ ทูตพาณิชย์ สำนักงานพาณิชย์นิวซีแลนด์ กล่าว

“หลายบริษัทนิวซีแลนด์ที่เข้ามาทำธุรกิจนั้นล้วนแต่ได้รับการยกย่องจากนักธุรกิจในไทยว่า เป็นบริษัทที่มีนวัตกรรมก้าวไกล น่าเชื่อถือ และมีความเอาใจใส่ลูกค้าเป็นอย่างดี เรามีความยินดีที่จะได้ร่วมมือกับบริษัทเหล่านี้ เพราะะหลายบริษัทได้รับการจัดอันดับว่าเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จ อีกทั้งยังวางแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมในไทยอีกด้วย”

ในระหว่างการเดินทางมาไทยครั้งนี้ ฯพณฯ จอห์น คีย์ จะประชุมแบบทวิภาคีกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีประจำประเทศไทย ซึ่งได้เดินทางเยือนนิวซีแลนด์เมื่อไม่นานมานี้

ทั้งไทยและนิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีความแข็งแกร่งทางด้านอุตสาหกรรมอาหาร โดยทั้งสองประเทศมีความประสงค์ที่จะร่วมมือกันสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมด้านอาหารของทั้งสองประเทศ ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยในด้านคุณภาพของอาหารและเครื่องดื่มมีมากขึ้น ซึ่งสะท้อนจากสินค้าต่างๆจากนิวซีแลนด์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในร้านอาหารและร้านขายสินค้าอุปโภคบริโภคในไทย

ในปี พ.ศ. 2555 นิวซีแลนด์ได้ส่งออกสินค้ามายังไทย ด้วยมูลค่าถึง 14.99 พันล้านบาท (471.82 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งป็นสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มคิดเป็นประมาณ 37 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 10.96 พันล้านบาท (345.20 ดอลลาร์สหรัฐ)

นิวซีแลนด์ได้รับการยกย่องในระดับนานาชาติว่าเป็นประเทศที่มีนวัตกรรมและเชี่ยวชาญในเรื่องอุตสาหกรรมการผลิต การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ รวมถึงระบบขนส่ง ซึ่งทเปิดโอกาสให้นิวซีแลนด์สามารถขยายโอกาสธุรกิจในไทย หลายบริษัทนิวซีแลนด์มีฐานการผลิตอยู่ที่ไทยหรือเป็นพันธมิตรร่วมกับบริษัทในไทยอีกด้วย

ไทยให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องของความมั่นคง ซึ่งหากกล่าวในเชิงเปรียบเทียบ ไทยกำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางความเจริญของภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้บริษัทที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยและระบบขนส่งจากนิวซีแลนด์ได้เข้ามามีส่วนช่วยสนับสนุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาระบบโรงพยาบาลให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น

ในขณะที่นิวซีแลนด์ให้การสนับสนุนเทคโนโลยีเฉพาะด้านกบไทย ซึ่งช่วยสร้างเสริมให้ไทยมีระบบอุตสาหกรรมการผลิตที่แข็งแกร่งมากขึ้นแล้วนั้น ตัวแทนบริษัทจากหลายหลายธุรกิจที่มาเยือนไทยในครั้งนี้ ได้คาดหวังทางธุรกิจระหว่างไทยกับนิวซีแลนด์ที่จะมีความแน่นแฟ้นและก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นจากการที่นายกรัฐมนตรีและคณะนักธุรกิจจากนิวซีแลนด์เดินทางมาเยือนไทยในครั้งนี้

ในการนี้ คณะนักธุรกิจจากนิวซีแลนด์จะอยู่ที่ไทยตั้งแต่วันที่ 17-20 พฤศจิกายน 2556