ทั้งนี้กองทุน LTF ที่มีผลงานดีอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว เอ็มเอไอ (SCBLT3) และ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวทาร์เก็ต (SCBLTT) ซึ่งเน้นการลงทุนในหุ้นที่คาดว่าจะมีการขยายตัวของผลประกอบการสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ดังนั้นจึงเหมาะกับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงสูงจากการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ได้ เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่สูง นอกเหนือจากสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดย SCBLT3 มีการจ่ายเงินปันผล ในขณะที่ SCBLTT ไม่จ่ายเงินปันผล
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเน้นสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีเงินได้ ในขณะที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากการลงทุนมากจนเกินไป ก็อาจเลือกลงทุนในกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 (SCBLT1) ซึ่งเป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้นเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกินร้อยละ 70 ทำให้โดยรวมมีความผันผวนน้อยกว่า SCBLT3 และ SCBLTT
ในส่วนของกองทุน RMF มีกองทุนที่น่าสนใจคือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้นเพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRM1) ที่เหมาะกับนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยงหรือความผันผวนของผลตอบแทน เนื่องจากกองทุนนี้เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นของภาครัฐและบริษัทที่มีความมั่นคงและพื้นฐานดี แต่สำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว และสามารถรับความผันผวนของผลตอบแทนได้ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET50 INDEX เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMS50) ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากเน้นการลงทุนในหุ้นชั้นนำ ขนาดใหญ่ พื้นฐานดี มีความมั่นคง อยู่ในดัชนี SET50 ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวเหมาะกับการลงทุนเพื่อการเกษียณอายุที่ต้องการหลักทรัพย์ที่ดีมีความมั่นคง สำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงไปยังการลงทุนในต่างประเทศ อาจจะพิจารณาลงทุนในกองทุนไทยพาณิชย์ โกลบอล เวลท์พลัส เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMGWP) ที่เน้นกระจายลงทุนในหุ้นต่างประเทศสูงถึง 70% โดยจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้การลงทุนในกองทุน RMF สามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเงินได้ เมื่อปฏิบัติตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร
สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6