ดร.ธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีกลุ่มมิจฉาชีพทำการคัดลอกข้อมูลบัตรเอทีเอ็มหรือการสกิมมิ่ง (Skimming) เพื่อโจรกรรมเงินในบัญชีของลูกค้าธนาคารผู้ถือบัตรนั้น ธนาคารพาณิชย์ทั้ง 15 แห่ง ซึ่งเป็นสมาชิกสมาคมธนาคารไทยขอย้ำว่าธนาคารทุกแห่งพร้อมให้ความดูแลแก่ลูกค้าที่ประสบปัญหาอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งร่วมมือกันดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับการปฏิบัติการของกลุ่มมิจฉาชีพเพื่อทำให้การติดตามตัวคนร้ายเป็นไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ สมาคมฯ ขอแนะนำวิธีการง่ายๆ สำหรับผู้ถือบัตรเอทีเอ็มที่มีความกังวลใจเกี่ยวกับการถูกคัดลอกข้อมูลบัตรเอทีเอ็ม ด้วยการเปลี่ยนรหัสบัตร 4 ตัว ซึ่งผู้ถือบัตรสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเองที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารผู้ออกบัตร โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
รหัสของบัตรเอทีเอ็มถือเป็นกุญแจสำคัญของการรักษาความปลอดภัยข้อมูลทางการเงิน เพราะหากกลุ่มมิจฉาชีพคัดลอกข้อมูลบัตรเอทีเอ็มไปแล้ว แต่ผู้ถือบัตรทำการเปลี่ยนรหัสบัตรก็จะทำให้คนร้ายไม่สามารถโจรกรรมเงินในบัญชีของท่านไปได้ ดังนั้น ผู้ถือบัตรควรเปลี่ยนรหัสอย่างสม่ำเสมอทุก 3 เดือน และรักษาไว้เป็นความลับ ไม่เปิดเผยรหัสให้ใครล่วงรู้แม้แต่คนในครอบครัวหรือเพื่อน และควรตรวจสอบยอดเงินในบัญชีอย่างสม่ำเสมอ หากพบสิ่งผิดปกติหรือมีข้อสงสัยใดๆ ขณะทำรายการผ่านเครื่องเอทีเอ็ม ให้รีบระงับการทำรายการทันทีและติดต่อธนาคารผู้ออกบัตรเพื่อแจ้งอายัดบัตร
สมาคมธนาคารไทยขอเรียนให้ทราบว่า ธนาคารสมาชิกได้ร่วมกันติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการแอบคัดลอกข้อมูลบัตรเอทีเอ็มบนเครื่องเอทีเอ็มทั่วประเทศประมาณ 50,000 เครื่อง และสามารถป้องกันปัญหาได้เป็นอย่างดีติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายปี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่นี้สมาคมธนาคารไทยมิได้นิ่งนอนใจ โดยได้จัดประชุมเพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุและกำหนดมาตรการป้องกันที่เหมาะสมต่อไป