นายเทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) หรือ NYT ผู้ให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์ (Roll-on/Roll-off: Ro/Ro) แบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ ท่าเทียบเรือ A5 ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้นำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นวันแรกในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า “NYT” หลังจากเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 205.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท ในราคาจองซื้อหุ้นละ 11.90 บาท ระหว่างวันที่ 13-15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมั่นใจว่า หุ้น NYT จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
ทั้งนี้ เนื่องจาก NYT มีศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์รายใหญ่ของไทยที่มีส่วนแบ่งตลาดกว่า 80% ของปริมาณส่งออกรถยนต์ในแต่ละปี ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจศักยภาพการดำเนินธุรกิจ ซึ่งในช่วงการเสนอขายหุ้น IPO ก็ปรากฏว่า หุ้นของบริษัทฯ ได้รับความสนใจ โดยมีผู้แสดงความจำนงจองซื้อจำนวนมาก จนหุ้นที่เสนอขายไม่เพียงพอต่อความต้องการ
“เรามีศักยภาพ ความพร้อม และขีดความสามารถในการให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์ที่สูงสุดในประเทศและในภูมิภาคอาเซียน โดยสามารถสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้กับค่ายผู้ผลิตรถยนต์ที่เลือกไทยเป็นฐานผลิตและส่งออกรถยนต์ไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งจะทำให้ NYT สามารถเติบโตแบบก้าวกระโดด” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NYT กล่าว
สำหรับเงินจำนวน 2,445 ล้านบาท ที่บริษัทฯ ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน สำรองไว้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และนำไปใช้ลงทุนขยายกิจการ เพื่อเตรียมความพร้อมในด้านการให้บริการรองรับปริมาณส่งออกรถยนต์ของไทยในฐานะเบอร์หนึ่งของอาเซียน ที่คาดว่าภายในอีก 2 ปีข้างหน้าจะส่งออกถึง 1.5 ล้านคัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตทางธุรกิจของ NYT ด้วย
ด้านนายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ หัวหน้าสายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ. นามยง เทอร์มินัล กล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยมีพื้นฐานและการเติบโตที่แข็งแกร่ง เนื่องจากภาครัฐให้ความสำคัญและมีนโยบายส่งเสริมที่เอื้อให้ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกเข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิต ซึ่งข้อมูลจากแผนแม่บทอุตสาหกรรมยานยนต์ คาดการณ์ว่าจำนวนรถยนต์ที่ผลิตโดยผู้ผลิตรถยนต์ทุกค่ายรวมกันจะพุ่งสูงขึ้นเป็น 3 ล้านคันภายในปี 2558 โดยในจำนวนดังกล่าวคาดว่าจะเป็นการผลิตเพื่อรองรับความต้องการซื้อภายในประเทศซึ่งโดยปกติจะไม่เกินปีละ 1 ล้านคัน ส่วนที่เหลือจะเป็นการผลิตเพื่อส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นผลดีโดยตรงต่อปริมาณการส่งออกรถยนต์ผ่านท่าเรือ A5 ของ NYT ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดกว่าร้อยละ 80 และส่งผลให้ผลการดำเนินงานของ NYT เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง