ส.อุตฯก่อสร้างแจง 6 มติครม.ช่วยผู้ประกอบการ รับฟิตแบคแรง-เตรียมเดินหน้ากระตุ้นรัฐต่อเนื่อง

พฤหัส ๒๘ พฤศจิกายน ๒๐๑๓ ๑๑:๓๖
นายอังสุรัสมิ์ อารีกุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีประกาศเรื่อง....การพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ ก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงานอันเนื่องมาจากการปรับค่าจ้าง ขั้นต่ำ 300 บาท…. โดยสรุปคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ สาระสำคัญของหลักเกณฑ์และเงื่อนไข 6 ประการมีดังนี้ คือ ประการแรก การให้ความช่วยเหลือนี้เป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการก่อสร้างเท่านั้น ประการที่สอง เรื่อง..การขยายระยะเวลา...แยกเป็นข้อย่อยที่ 1 ผู้ประกอบการก่อสร้างที่มีสิทธิได้รับการพิจารณาขยายระยะเวลาก่อสร้าง ต้องเป็นคู่สัญญาที่ได้ลงนามทำสัญญาจ้างก่อสร้างกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ โดยบังคับใช้กับสัญญาจ้างก่อสร้างที่ได้ลงนามไว้กับหน่วยงานก่อนวันที่ 1 มกราคม 2556 หรือสัญญาจ้างก่อสร้างที่ได้ลงนามไว้กับหน่วยงาน ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2556 ถึงวันที่ 22 เมษายน 2556 ซึ่งสัญญาดังกล่าว ณ วันที่ 1 มกราคม 2556 ถึงวันที่ 22 เมษายน 2556 ยังมีนิติสัมพันธ์อยู่และยังมิได้มีการส่งมอบงานงวดสุดท้าย หรือสัญญาดังกล่าวยังมีนิติสัมพันธ์อยู่ แต่ได้มีการส่งมอบงานงวดสุดท้ายในช่วงระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2556 ถึงวันที่ 22 เมษายน 25566 ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาที่ให้ความช่วยเหลือฯ ยกเว้นสัญญาที่หน่วยงานได้พิจารณาก่อนวันที่ 1 มกราคม 2556 แล้วว่า จะบอกเลิกสัญญา เนื่องจากคู่สัญญาปฏิบัติผิดสัญญา กรณีสัญญาดังกล่าวไม่เข้าเกณฑ์ที่จะได้รับความช่วยเหลือตามมติคณะรัฐมนตรีนี้

ข้อย่อยที่ 2 สัญญาจ้างก่อสร้างที่อยู่ในหลักเกณฑ์ตามข้อย่อยที่ 1 ให้หน่วยงานขยายระยะเวลาออกไปอีก จำนวน 150 วัน ในกรณีอายุสัญญาจ้างก่อสร้างน้อยกว่า 150 วัน ก็ให้ขยายระยะเวลาได้เท่ากับอายุสัญญาเดิม ข้อย่อยที่ 3 สัญญาจ้างก่อสร้างที่ได้รับการขยายระยะเวลาออกไปตามข้อย่อยที่ 2 ให้หน่วยงานดำเนินการดังนี้คือกรณีสัญญาจ้างก่อสร้างได้ดำเนินการล่วงเลยกำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จตามสัญญา และได้ถูกปรับไว้ในช่วงก่อนหน้าวันที่ 1 มกราคม 2556 ยังคงเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการที่ต้องรับผิดชอบในส่วนของค่าปรับในช่วงก่อนหน้าที่จะได้รับการช่วยเหลือฯ แต่จะได้รับการลดหรืองดค่าปรับเฉพาะในช่วงระยะเวลาที่ได้รับการช่วยเหลือตามมาตรการนี้เท่านั้น นอกจากนี้กรณีสัญญาจ้างก่อสร้างที่ยังอยู่ภายในระยะเวลาตามสัญญา ให้ขยายระยะเวลา โดยนับจากวันสิ้นสุดระยะเวลาตามสัญญาเดิม

ข้อย่อยที่ 4 กรณีสัญญาจ้างก่อสร้างที่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะได้รับความช่วยเหลือฯ หากการขยายระยะเวลาออกไป มีผลทำให้ผู้รับจ้างไม่ถูกปรับ ก็ให้งดลดค่าปรับ หรือคืนเงินค่าปรับ ตามความเป็นจริง แล้วแต่กรณี สำหรับข้อย่อยที่ 5 กรณีสัญญาจ้างก่อสร้างที่ได้รับความช่วยเหลือหากสัญญาจ้างก่อสร้างดังกล่าวมีการจ้างเอกชนควบคุมงาน ค่าจ้างควบคุมงานและหรือค่าจ้างที่ปรึกษา ให้ผู้รับจ้างเป็นผู้รับภาระค่าจ้างควบคุมงาน และหรือค่าจ้างที่ปรึกษาสำหรับระยะเวลาที่ได้ขยายออกไป เนื่องจากผู้รับจ้างได้รับประโยชน์จากการได้รับการขยายระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ส่วนข้อย่อยที่ 6 ผู้ประกอบการก่อสร้างที่ประสงค์จะขอรับความช่วยเหลือจะต้องยื่นคำร้องขอต่อหน่วยงานคู่สัญญาภายใน 60 วัน นับถัดจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติและข้อย่อยที่ 7 กรณีคู่สัญญาใดเห็นว่า การได้รับความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ข้างต้น ยังไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้และมีเหตุผลอันสมควร ให้หน่วยงานพิจารณาและหากเห็นสมควรขยายระยะเวลา ก็ให้เสนอต่อคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุเพื่อพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป

ประการที่สาม เรื่อง..การพิจารณาไม่ลงโทษเป็นผู้ทิ้งงาน....นั้น หากในกรณีที่หน่วยงานได้มีการบอกเลิกสัญญาจ้างก่อสร้างไปแล้ว สืบเนื่องจากผู้รับจ้างได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงาน อันเนื่องมาจากการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ซึ่งได้บอกเลิกสัญญาในช่วงระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2556 ถึงวันที่ 22 เมษายน 2556 ให้ถือว่าไม่เป็นผู้ทิ้งงาน

ประการที่สี่ ให้คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติในการพิจารณาให้ความช่วยเหลือฯ ดังกล่าว ประการที่ห้า เพื่อความเป็นธรรมในการพิจารณาให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการก่อสร้างของหน่วยงานภาครัฐในภาพรวม จึงเห็นควรนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา และมีมติแจ้งเวียนให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐถือปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน ประการที่หก มอบให้กระทรวงมหาดไทยนำมาตรการนี้ไปใช้บังคับในการจัดจ้างก่อสร้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย โดยอนุโลม

สำหรับประเด็นการขอใช้ค่าปรับรายวันในอัตราตายตัวร้อยละ 0.01 ของราคาพัสดุที่ยังไม่ได้รับมอบ และการขอประกันผลงานของตนเอง เมื่อผลงานก่อสร้างนั้นก่อสร้างแล้วเสร็จไปแล้ว 6 เดือน โดยไม่ต้องใช้หนังสือค้ำประกันจากธนาคารนั้นเป็นประเด็นเรื่องหลักประกันการ ปฏิบัติตามสัญญาที่ผู้รับจ้างจะต้องนำหลักประกันสัญญามาวางในขณะทำสัญญาตาม อัตราที่ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมกำหนด และผู้ว่าจ้างจะคืนให้แก่ผู้รับจ้างเมื่อพ้นจากข้อผูกพันตามสัญญา โดยสัญญาดังกล่าวจะต้องประกันความชำรุดบกพร่องไม่น้อยกว่า 2 ปี ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2536 แจ้งตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0202/ ว 1 ลงวันที่ 3 มกราคม 2537 เรื่อง มาตรการป้องกันหรือลดโอกาสในการสมยอมกันในการเสนอราคา คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุเห็นว่า เนื่องจากทั้ง 2 ประเด็นดังกล่าว ยังมีข้อมูลไม่ชัดเจนเพียงพอ จึงเห็นควรให้ กค. โดยคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ ศึกษารายละเอียดและความเหมาะสมเพื่อปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้นายอังสุรัสมิ์ อารีกุล กล่าวแสดงความคิดเห็นต่อมติครม.ดังกล่าวว่า ทางสมาคมฯต้องขอขอบคุณรัฐบาล ที่พยายามนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาอย่างรวดเร็ว ทั้ง ๆ ที่ในช่วงนี้รัฐบาลติดภาระกิจทางการเมืองหลายเรื่อง สำหรับผลที่ออกมานั้น แม้ว่ารัฐบาลจะไม่ตอบรับกับเงื่อนไขที่สมาคมฯได้เสนอไปทั้งหมด แต่ก็ต้องยอมรับว่าเงื่อนไขที่ได้รับเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมก่อสร้างจำนวนมาก อย่างไรก็ดีสมาคมฯทราบว่ายังมีผู้ประกอบการจำนวนหนึ่งที่ยังคงได้รับความเดือดร้อน และไม่เข้าข่ายที่จะได้รับความช่วยเหลือตามมติครม.ดังกล่าว ซึ่งมติครม.ได้เปิดโอกาสให้ท่านสมาชิกได้ยื่นขอรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมเป็นรายๆไป (เน้นตามข้อย่อยที่ 7) จึงใคร่ขอให้สมาชิกศึกษาผลกระทบที่ได้รับ เร่งทำความเข้าใจกับมติครม.ดังกล่าว และประสานกับหน่วยงานราชการที่ผู้ประกอบการแต่ละรายเกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์ของผู้ประกอบการเอง และหากติดขัดปัญหาหรือมีประเด็นโต้แย้งอย่างไร ก็สามารถติดต่อมายังสมาคมฯได้ทันที ทางคณะกรรมการสมาคมและเจ้าหน้าที่ทุกท่านยินดีให้ความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามทางสมาคมฯจะได้ประชุมปรึกษาหารือเพื่อดำเนินการในส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องต่อไป

นายณัฐพร พรหมสุทธิ เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า สำหรับอนาคตอันใกล้นี้ สมาคมฯยังมีภารกิจเร่งด่วนที่สำคัญอื่นๆที่ต้องติดตามและดำเนินการร่วมกับภาครัฐอีกเช่น การปรับราคากลางให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริงมากขึ้น การจัดทำ Factor F และค่า K ใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งงานเหล่านี้จะสำเร็จเสร็จสิ้นได้ก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากท่านสมาชิกด้วยเช่นกัน สำหรับสมาชิกและผู้ประกอบการที่ต้องการคำแนะนำ ข้อมูลเชิงวิชาการ ความช่วยเหลือใด ๆ หรือร่วมแสดงความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ สามารถติดต่อมาที่โทร.0-2251-4471-3 หรือติดตามความเคลื่อนไหวของสมาคมฯได้ที่ www.tca.or.th หรือ www.facebook.com/ThaiContractorsAssociation

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version