นายจิรศักดิ์ เปรมพจน์วัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท เอสเทรค (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนที่จะมุ่งทำตลาดในกลุ่ม Gamer มากยิ่งขึ้น เพราะตลาดในส่วนนี้ถือเป็นกลุ่มพรีเมี่ยม และเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูงทำให้ราคาไม่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ แต่จะเลือกซื้อโดยวัดที่คุณภาพของสินค้า เป็นหลักเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อการเล่นเกมได้อย่างสูงสุด ปัจจุบันลูกค้าของเอสเทรคสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ กลุ่ม Home User และกลุ่ม Internet Caf? หรือ i Caf? ทั้งนี้กลุ่ม Home User จะเน้นด้านสินค้าสเปคสูงและพรีเมี่ยม รวมถึงเรื่องการรับประกันหลังการขายที่มีคุณภาพในขณะที่ iCafe จะเน้นศักยภาพ ในการแข่งขันเป็นหลัก รวมถึงการเลือกเครื่องคอมพิวเตอร์ที่รวดเร็วฉับไว ส่วนด้านการบริการก็ต้องการการเคลม ที่รวดเร็วจากบริษัท ตัวแทนจำหน่าย ซึ่งเอสเทรคได้วางแผนสำหรับ การทำตลาดในกลุ่มนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว
"ในปี 2556 ตลาดเกมออนไลน์มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท โดยมีจำนวนผู้เล่นเกมในปัจจุบันประมาณ 10 ล้านคนจากจำนวนผู้เล่นอินเตอร์เน็ตรวม 25 ล้านคน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต ทั้งนี้ยังไม่รวมกลุ่มของ i caf? ซึ่ง ณ ปัจจุบันมีร้านที่เปิดให้บริการและลงทะเบียนในระบบกว่า 10,000 ร้าน และร้านเหล่านี้ จะต้องมีรอบในการอัพเกรดเครื่องทุกๆ 2 ปี เพื่อทำให้ร้านสามารถแข่งขันในตลาดได้ เอสเทรค จึงเล็งเห็นโอกาสดังกล่าวอย่างชัดเจน" นายจิรศักดิ์ เปรมพจน์วัฒนา กล่าว
การผนึกพลังร่วมกันในครั้งนี้ระหว่าง 3 แบรนด์ จะสามารถสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจเกมออนไลน์ ของไทยได้อย่างน่าจับตา “เอสเทรค ถือเป็นตัวแทนจำหน่ายของสินค้าประเภท Component เช่น Motherboard, Graphic Card, CPU ดังนั้นการต่อยอดความแข็งแกร่งด้วยการก้าวเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ "เอ็มเอสไอ และ ร็อคแคท" ในเมืองไทยจะสามารถทำให้เอสเทรคมีสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งยังครอบคลุมในทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น Home user, Graphic user และกลุ่มGamer ซึ่งเอ็มเอสไอจะมี กลุ่มสินค้าที่เป็น Motherboard ที่เน้นคอเกมโดยเฉพาะและทำด้วยวัสดุชั้นดีเพื่อความเสถียร และดึงความสามารถในการทำงานของ CPU และ Graphic Card ได้อย่างสูงสุด มีราคาตั้งแต่ 1,500 -8,500 บาท ในขณะที่ร็อคแคท จะเป็นกลุ่ม Gaming Gear Accessories สุดพรีเมี่ยมดีไซน์จากประเทศเยอรมัน อาทิ Mouse ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสามารถปรับแต่ง Function การใช้งานได้ตามความชอบของผู้เล่น รวมไปถึง Keyboard, Headphone ที่เหมาะกับกลุ่ม Gamer มีราคาตั้งแต่ 800 —6,500 บาท" นายจิรศักดิ์ อธิบายเพิ่มเติม
ทั้งนี้ด้านช่องทางการจำหน่ายนั้น เอสเทรค จะเน้นจำหน่ายไปยังฐานลูกค้าเดิม อาทิ ร้าน Retail และ IT Chain Store และจะเพิ่มช่องทางใหม่ๆ ที่เป็นร้าน Gaming Gear shop ตามตึก IT ต่างๆ และกลุ่ม Modern Trade และ Department Store “เราคาดว่าหลังจากการผนึกพลังในครั้งนี้ เอสเทรค ตั้งเป้ายอดขายไว้ ที่ 3,000 ล้านบาท เพราะเราเชื่อว่าเราพร้อม ในเรื่องของศักยภาพ และมี Product line ครบที่สุดในสินค้า Component ในเมืองไทย ณ ปัจจุบัน นอกจากนี้ เราจะทำกิจกรรมเจาะตรงสู่กลุ่ม Gamer มากขึ้น ไม่ว่าจะร่วมกับค่ายเกมส์ต่างๆ และรวมกลุ่ม i Caf? มาร่วมกิจกรรมกับเราดังเช่น ที่ผ่านมาเราได้ร่วมกับ NviDia นำลูกค้ากลุ่ม i caf? ไปร่วมสัมมนาแนวทางธุรกิจที่เมืองซีอาน ประเทศจีน เพื่อสัมผัสเทคโนโลยีใหม่ๆ ของตลาด I caf? และยังมีแผนที่จะจัด Tournament Game อย่างต่อเนื่องในปี 2557 ด้วย” นายจิรศักดิ์ กล่าวสรุป