โดย ดร.พญ. แพรวไพลิน พฤกษานานนท์ ( ดร.หมอแพม )
ปัจจุบัน คนไทยหันมาให้ความสนใจด้านความสวยความงามกันมากขึ้น มีการดูแลผิวพรรณ รูปร่าง หน้าตา รวมถึงการปรับปรุงบุคลิกภาพ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเอง และเป็นใบเบิกทางในอาชีพ ไม่เฉพาะ ดารา นักร้อง นักแสดงเท่านั้น อาชีพอื่นๆ เช่น พนักงานขาย เลขานุการ หรือพนักงานที่มีหน้าที่พบปะผู้คน เพื่อเป็นการสร้างความประทับใจยามพบเห็น และเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน
การเสริมความงามจึงเป็นตัวเลือก ซึ่งก็มีหลากหลายประเภทแตกต่างกันไปให้เลือก ตามสภาพปัญหาของแต่ละบุคคล เช่น ปัญหาด้านผิวพรรณ เป็นสิว รอยดำ ฝ้า กระ สามารถรักษากับแพทย์ผิวหนังโดยการใช้ยาทา ยากิน หรือ ใช้เครื่องมือ ไอพีแอล เลเซอร์ ในบางคนต้องการปรับเปลี่ยนรูปหน้าให้สวยแบบดารา ซึ่งเทรนด์ที่นิยมส่วนใหญ่เป็นแบบเกาหลี เช่นการปรับรูปหน้า แบบวีเชฟ ลดกราม ทำจมูก เสริมดั้ง เสริมคาง เป็นต้น สำหรับคนที่เริ่มมีอายุก็จะมีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อย ริ้วรอย ต้องการยกระชับใบหน้า ดังนั้นก่อนตัดสินใจ ควรศึกษาก่อนว่าจะทำอะไรบ้าง ?
ขั้นตอนแรกสุด : ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาว่าควรทำอะไรบ้าง
เช่น ต้องการปรับรูปหน้า เพราะมีปัญหาจากกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ก็สามารถปรับโดยวิธีการฉีดโบท็อกซ์กราม มีปัญหาจากไขมันแก้ม ต้องฉีดสลายไขมันแก้ม ถ้ากระดูกกรามใหญ่ ก็ต้องทำการผ่าตัดลดขนาดกระดูกกราม หรือบางคนมีปัญหาทั้งจากกระดูกกล้ามเนื้อไขมัน อาจต้องทำหลายอย่างควบคู่กัน โดยเริ่มจากขั้นตอนที่มีความเสี่ยง น้อยกว่า เจ็บตัวน้อยกว่า และพักฟื้นน้อยกว่า คือเริ่มจากการฉีด โบท็อกซ์ และสลายไขมันก่อน ถ้าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ก็ไม่ต้องผ่าตัด แต่ถ้ายังไม่พอใจเท่าที่ควร อาจต้องพิจารณาการผ่าตัดร่วมด้วย
ส่วนการเสริมจมูก เสริมคาง เสริมหน้าผาก เสริมโหนกแก้ม สำหรับคนที่กลัวเจ็บหรือเพิ่งเริ่มต้น ขอแนะนำโดยเริ่มจากการฉีด ฟิลเลอร์ แต่ข้อเสียก็คืออยู่ได้แค่ 1-2 ปี ข้อดี คือสามารถปรับรูปหน้าได้ตามที่ต้องการ หลังการฉีดไม่ต้องพักฟื้น ทำงานได้ตามปกติ ส่วนการทำศัลยกรรม ข้อดีคือ อยู่ได้นาน 5-10 ปี แต่ข้อเสียคือ ต้องอาศัยเวลาพักฟื้น และถ้าต้องการปรับรูปหน้า จะต้องผ่านกระบวนการ ขั้นตอนที่ใช้เวลา ซึ่งราคาโดยเฉลี่ย ใกล้เคียงกัน ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ สถานที่ และประสบการณ์ของแพทย์ เป็นต้น
การยกกระชับหน้า หรือ ลดริ้วรอย ก็มีหลายวิธี ในคนอายุ 30-50 ปี ความหย่อนคล้อยยังไม่ค่อยมาก อาจใช้การฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ยกกระชับหน้า หรือการร้อยไหมละลายที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ส่วนคนที่อายุ 50 ปีขึ้นไป การฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ หรือการร้อยไหมก็ช่วยได้ แต่ประสิทธิภาพอาจไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร อาจต้องทำการผ่าตัดดึงหน้า หรือร้อยไหมแบบเงี่ยง ไหมกรวย เป็นต้น
ดังนั้น ก่อนจะไปอัพหน้ากัน ก็ควรศึกษาก่อนว่าจะทำอะไร ทำที่ไหน เช่น ศึกษาคลินิก หรือโรงพยาบาล ที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาต และควรเตรียมตัวให้พร้อม ในกรณีที่ต้องการทำหัตถการ โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ หรือ ร้อยไหม ก็ควรหยุดใช้ยาประเภทแอสไพริน หรืออาหารเสริม จำพวก วิตามินอี แป๊ะก๊วย ล่วงหน้า 1 อาทิตย์ เพื่อป้องกันและลดอาการเขียวช้ำที่อาจเกิดขึ้นได้ หรือในบางกรณีอาจต้องทำการตรวจเลือดตามแพทย์สั่ง ก่อนการทำหัตถการผ่าตัด
ท้ายสุดนี้ขอฝาก สโนไวท์ คลินิก ภายใต้ บริษัท สโนไวท์ คอสเมติก จำกัด ให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ความงาม ชะลอวัย และผิวพรรณ จากสหรัฐอเมริกา ด้านการฝังเข็มจากจีน และด้านการร้อยไหมละลาย จากเกาหลี และไต้หวัน ซึ่งรวบรวมเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านความงามจากทั่วโลก มาเพื่อรองรับ และให้บริการความงามมิติใหม่ในทุกรูปแบบ
สนับสนุนข้อมูลโดย
ดร.พญ. แพรวไพลิน พฤกษานานนท์ ( ดร.หมอแพม ) แพทย์ประจำคลีนิก
บริษัท สโนไวท์ คอสเมติก จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และบริการด้านความงามมิติใหม่
โทร .081-515-0144 www.snowwhitecosmetic.com
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร. 02 989 7844 , 092 408 9260