สถาบันวิจัยสุขภาพ มช.จับมือ สสจ.เชียงใหม่ตรวจเชื้อ HIV และประกวดแต่งชุดถุงยางอนามัยในวันเอดส์โลก

ศุกร์ ๐๖ ธันวาคม ๒๐๑๓ ๑๘:๑๐
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2556 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาเชียงใหม่แอร์พอร์ต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่และสถาบันวิจับสุขภาพมหาวิทยาลัยเชียงใหม่จัดงานรณรงค์เนื่องในวันเอดส์โลก ปี 2556 กิจกรรมดังกล่าวได้มีการนำนักศึกษาจากหลายสถาบันการศึกษาเจ้ามาร่วมกิจกรรมดังกล่าว อาทิ บูธนิทรรศการให้ความรู้และการแจกถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคเอดส์

ในงานดังกล่าวมีการเปิดพื้นที่ให้สาวๆรุ่นใหม่มาร่วมแต่งตัวด้วยถุงยางอนามัยเพื่อค้นหา Ambassador Aids World 2013 อีกด้วยซึ่งผู้ชนะเลิศการแต่งกายดังกล่าวคือ นางสาวจันทร์จิรา สุวรรณอาภา น้องยุ้ย ปัจจุบันเรียนคณะศิลปกรรมศาสตร์และออกแบบสิ่งแวดล้อม มทร.ล้านนา ภาคพายัพเชียงใหม่ ได้ร่วมอออกแบบชุดด้วยถุงยางอนามัยทั้งตัวเพื่อเป็นการให้เกิดการประชาสัมพันธ์กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ในการใช้ถุง พร้อมทั้งน้องยุ้ยยังกล่าวต่อผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า การประกวดชุดถุงยางเป็นประสบการณ์ใหม่เพราะไม่เคยใส่ชุดดังกล่าว และแนวคิดเรื่อง Love Pink เป็นการกระตุ้นให้ตระหนักเรื่องความรักแบบปลอดภัย และขอเชิญชวนกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ในการดูแลตัวเอง การแสดงความรักไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่ถ้าเรามีเพศสัมพันธ์ต้องใช้ถุงเพื่อป้องกันโรคและการติดเชื่อ HIV อีกด้วย

utfhc

ศ.นพ.สุวัฒน์ จริยาเลิศศักดิ์ ผุ้อำนวยการศูนย์วิจัยสุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้เล่าเพิ่มเติมว่า วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันเอดส์ ซึ่งจากการจัดงานสองวันที่ผ่านมาได้ร่วมกันรณรงค์สร้างความตระหนักเรื่องโรคเอดส์ ประเทศไทยปัจจุบันมีผู้ติดเชื่ออยู่ประมาณ 500,000 ราย และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่แต่ละปีประมาณ 10,000 รายกิจกรรมนี้จะเป็นการบอกให้รู้ว่าโรคเอดส์ยังระบาดอยู่ จำนวนไม่น้อยของผู้คนในสังคมติดเชื่อเอดส์แบบมารู้ตัว ซึ่งงานทั้งสองวันได้มีบูธให้คำปรึกษา และการตรวจหาเชื่อ HIV ซึ่งมีคนให้ความสนใจพอสมควร จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีความเสี่ยงอับดับ 3 ของประเทศ ซึ่งปัจจุบันเกิดปัญหาดังกล่าวในกลุ่มเด็กอายุ 20-25 ปี และในเมืองท่องเที่ยวและหัวเมืองใหญ่ สิ่งสำคัญที่เราพยายามที่จะบอกกล่าวกับพี่น้องประชาชนว่า อยากเชิญชวนให้ทุกคนมาตรวจเลือดเพื่อหาเชื่อเพราะคนจำนวนมากไม่รู้ว่าตนเองติดเชื่อ จนกว่าจะเกิดอาการเจ็บป่วย การที่เรารู้เร็วขึ้นเราจะได้ตรวจเช็คสุขภาพและจะมีการให้ยาและรักษา ซึ่งการที่มีการดูแลเราสามารถอยู่ได้ยืนยาว เราเดินเหมือนคนปกติทั่วไปเราไม่สามารถรู้ได้ แต่ถ้าเรามาตรวจเมื่อเจอผลเลือดลบ เราจะได้ดูแลตัวเอง ในสังคมไทยยังมีปัญหาเรื่องของความกลัวที่จะตรวจและการตีตราผู้ติดเชื่อ ว่าเป็นเรื่องที่น่าอายและเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม คนในสังคมจะรังเกียจ จึงขอความร่วมมือในการลดการตีตรากับผู้ติดเชื่อ เพราะไม่ได้ติดเชื้อด้วยน้ำลาย การไอจาม มันมีการติดเชื้อเพราะการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัยและการเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ จึงขอให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพราะโรคเอดส์เป็นโรคที่ไม่ได้น่ารังเกียจและรักษาได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๔๕ สมาคมสถาปนิกสยามฯ ร่วมกับพันธมิตร เตรียมจัดงาน WOW 2025: Wonder Of Well-Living City เมืองดี คนมีพลัง ยกระดับคุณภาพชีวิตสู่ความยั่งยืน
๑๗:๔๓ กทม. เร่งแก้ปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองสอง ขอความร่วมมือชุมชนไม่ทิ้งขยะ-เศษอาหารลงคลอง
๑๗:๐๖ ดั๊บเบิ้ล เอ รับรางวัล CSR-DIW Continuous Award 2024 ต่อเนื่อง
๑๗:๓๐ วุ้นมะพร้าวในน้ำเชื่อม ตราไทเชฟ อร่อยเต็มคำ
๑๗:๐๗ จัดการประชุมครั้งต่อไปด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ ที่โรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท
๑๗:๐๔ CIBA DPU ร่วมกับ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิด 4 เวทีแข่งขันทักษะธุรกิจระดับประเทศ ชิงถ้วยพระราชทาน 'กรมสมเด็จพระเทพฯ' รับสมัครแล้ววันนี้ - 17 ม.ค.
๑๗:๕๗ ปิดฉากสมรภูมิรอบไฟนอล THE SOCIAL WARRIOR ลุ้น! ใครคือ Warrior คนแรก ที่คว้าเงินรางวัล 1 ล้านบาท ของประเทศไทย
๑๗:๓๑ มทร.ธัญบุรี ลงนามภาคเอกชนพัฒนาศักยภาพนวัตกรรมดิจิทัล
๑๗:๒๓ Agni Gallery จุดหมายใหม่ของคนรักศิลปะ
๑๗:๕๕ Alexander James จับมือ Chic Republic เปิดพื้นที่โชว์รูมใหม่ รุกตลาดภูเก็ต