บลจ. กสิกรไทย เสนอขายกองทุนตราสารหนี้ต่อเนื่องส่งท้ายปลายปี พร้อมชวนนักลงทุนพักเงินระยะสั้นรอดูทิศทางเศรษฐกิจ

จันทร์ ๑๖ ธันวาคม ๒๐๑๓ ๑๔:๑๔
นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในวันที่ 17 – 24 ธันวาคม 2556 บลจ.กสิกรไทยมีกำหนดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ และต่างประเทศ ประเภทกำหนดอายุโครงการต่อเนื่อง 3 กองทุน ทั้งอายุโครงการ 3 เดือน และ6 เดือน ซึ่งประกอบไปด้วย กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือนเอวี (KFF6MAV) ให้โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.20% ต่อปี กองทุนเปิดเคตราสารหนี้ 3 เดือนดีคิว (KFI3MDQ) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.95% ต่อปี และกองทุนเปิดเคคุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือนดีเค (KPPTF3MDK) โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.45% ต่อปี

นางสาวยุพาวดีกล่าวต่อไปว่า สำหรับกองทุนเปิดเคตราสารหนี้ 3 เดือนดีคิว (KFI3MDQ) จะลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก China Construction Bank Corporation, สาขาฮ่องกง (A/Fitch), เงินฝาก Bank of China,สาขามาเก๊า (A/Fitch), ตราสารหนี้ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด,ประเทศไทย (AAA/TRIS), ตราสารหนี้ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย (A+(tha)/Fitch), ตราสารหนี้ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย (AA-(tha)/Fitch) ตามลำดับ ด้านกองทุนเปิดเคตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือนเอวี (KFF6MAV) จะลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก China Construction Bank Corporation, สาขาฮ่องกง( A/Fitch), เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า (A/Fitch), ตราสารหนี้ Yapi Kredi Bankasi A.S., ประเทศตุรกี (BBB/Fitch), ตราสารหนี้ BTG Investments LP ที่รับประกันโดย BTG Pactual Holding S.A., ประเทศบราซิล (BBB-/Fitch), ตราสารหนี้ Bank of East Asia Ltd., สาขาฮ่องกง(A/S&P) , ตราสารหนี้ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย (A+(tha)/Fitch) โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

นอกจากนี้ เพื่อตอบรับความต้องการสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมากและต้องการลงทุนระยะสั้นกับตราสารหนี้ในประเทศเป็นหลัก ในช่วงเวลาเดียวกัน บลจ.กสิกรไทยจึงเปิดขายกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือนดีเค (KPPTF3MDK) ซึ่งจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และบางส่วนในเงินฝากประจำ 3 เดือนของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะให้โอกาสรับผลตอบแทนปลอดภาษีสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ 2.45% ต่อปี

นางยุพาวดีกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพรวมของเศรษฐกิจในช่วงนี้ ยังคงต้องจับตามอง เพราะแรงกดดันจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะปัญหาทางการเมือง และภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง บวกกับผลการประชุมของเฟดในวันที่ 18 ธันวาคม นี้ ว่าจะออกมาในทิศทางใดกับมาตรการปรับลด QE ดังนั้นผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ต่ำควรกระจายความเสี่ยงกับการลงทุนในตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการ เพื่อพักเงินในระยะสั้นรอดูทิศทางของเศรษฐกิจ และจับจังหวะการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ต่อไป ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถลงทุนกับกองทุน KPPTF3MDK, กองทุนKFI3MDQ และกองทุน KFF6MAV ได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ