นายธีระ กนกกาญจนรัตน์ นักวิเคราะห์ด้านไอซีที บริษัท ฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลกกล่าว่า “ในปีหน้าปัจจัยหลักที่จะขับเคลื่อนรายได้ของผู้ให้บริการในตลาด Mobile Device คือการเติบโตของการใช้งานโทรศัพท์มือถือแบบ Smart Phone ที่เพิ่มมากขึ้น เพราะแม้ว่าในปัจจุบันคนไทยจะมีโทรศัพท์มือถือกันทุกคน แต่จำนวนโทรศัพท์ที่เป็น Smart Phone รองรับการเข้าถึงข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตและใช้งานแอปพลิเคชั่นต่างๆได้ ในปีนี้ยังมีเพียง 30% ของจำนวนโทรศัพท์มือถือทั้งหมดเท่านั้น”
ผลสำรวจของฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวนฯ ชี้ให้เห็นว่า แม้แต่ในประเทศที่เป็นผู้นำเทคโนโลยีสื่อสารเช่น เกาหลีใต้ ที่ตลาดอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ไร้สายมีความอิ่มตัวสูง ก็ยังมีจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์แบบ Smart Phone เป็นจำนวนโดยประมาณ 85% ของประชากรทั้งหมด ในขณะที่กลุ่มประเทศตะวันตกเช่น สหรัฐอเมริกา และประเทศในแถบยุโรป มีจำนวนผู้ใช้ Smart Phone อยู่ที่ประมาณ 60% ของประชากรเท่านั้น
“ในส่วนของอุปกรณ์ Tablet ก็เป็นอีกหนี่งตลาดที่ไม่ควรมองข้าม แม้ว่าในประเทศไทยจำนวนผู้ใช้งาน Tabletจะยังมีน้อยและมีอัตราการเติบโตไม่หวือหวามากนัก แต่เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วรายได้ที่เกิดจากการใช้งานของผู้ใช้ Tablet ต่อคนกลับมีสูงกว่ารายได้จากผู้ใช้งาน Smart Phone”
นอกจากนี้ นายธีระยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “จำนวนผู้ใช้งาน Tablet ในประเทศไทยยังมีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับโทรศัพท์มือถือ เราคาดการณ์ว่าเมื่อสิ้นปี 2556 นี้จะมีผู้ใช้ประมาณ 5 ล้านรายหรือ 7% ของประชากรทั้งหมด โดย การเติบโตของตลาดเครื่อง Tablet จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งสิ่งที่ผลักดันการเติบโตนี้คือ ความนิยมในการนำ Tablets มาใช้แทนเครื่องคอมพิวเตอร์ PC”
“อีกปัจจัยหนึ่งที่ผู้ให้บริการควรให้ความสำคัญกับตลาด Tablet คือ รายได้ต่อผู้ใช้ที่เกิดจากการใช้งาน Data Service รูปแบบต่างๆ หรือ ARPU ( Average Revenue Per User) นั้นมีปริมาณสูงกว่าบนเครื่อง Smart Phone ซึ่งรายได้เหล่านี้มาจากพฤติกรรมผู้ใช้งาน Tablet ที่นิยมจ่ายเงินเพื่อซื้อแอพพลิเคชั่นและส่วนเสริมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมส์ หรือแอพพลิเคชั่นที่สร้างความสะดวกในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ผลสำรวจของฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวนได้ชี้ให้เห็นว่า 66% ของรายได้โดยรวมจากการขายแอพพลิเคชั่นทั้งหมดนั้นมาจากแอพพลิเคชั่นที่รองรับระบบ iOS ของแอปเปิ้ล และรายได้จากการขายแอพพลิเคชั่น บน Tablets นั้นมีมากกว่า Smart phone ถึง 4 เท่าเลยทีเดียว” นักวิเคราะห์ชื่อดังกล่าวทิ้งท้าย