สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) จัดการประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2556 ภายใต้แนวคิด The Wonder of Miss Thailand สวยสง่า ทันสมัย มีความสามารถ โดยนำผู้เข้ารอบ 18 คนสุดท้าย ร่วมกิจกรรมเก็บตัวที่จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 11-13 ธันวาคม 2556
เมื่อเดินทางถึงจังหวัดนครราชสีมา คณะผู้เข้าประกวดร่วมสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี โดยมีคณะผู้บริหารและข้าราชการทั้งส่วนภูมิภาคและท้องถิ่นคอยต้อนรับ นำโดยนายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสี จากนั้นผู้เข้าประกวดเดินทางไปสักการะศาลหลักเมือง ต่อด้วยการเยี่ยมชมสถานที่สำคัญหลายแห่งในจังหวัดนครราชสีมา
กิจกรรมสำคัญสำหรับวันแรกของการเก็บตัว ได้แก่ การประกวดขวัญใจชาวโคราช ซึ่งจัดขึ้นที่ลานนวมินทร์ ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 โดยผู้เข้ารอบ 18 คนสุดท้ายที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดจากผู้มาร่วมงานได้แก่ น้ำ ชนิดาภา แก้วบุญเรือง ชาวจังหวัดนครราชสีมา อดีตรองอันดับ 1 นางสาวนครราชสีมาประจำปีนี้ ปัจจุบันศึกษาในชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้รับรางวัลเป็นเงินสดมูลค่า 30,000 บาทจากจังหวัดนครราชสีมา
โชว์แฟชั่นเวทีเทศกาลผ้าไหมปักธงชัย
ในวันที่สองของกิจกรรมการเก็บตัว ผู้เข้าประกวดพร้อมด้วยคณะสื่อมวลชน เดินทางไปยังอำเภอสูงเนิน เพื่อเยี่ยมโรงเรียนบ้านนาใหญ่ อำเภอสูงเนิน โดยมีคณะครูและนักเรียนให้การต้อนร้บ ก่อนเดินทางต่อไปยังวัดธรรมจักรเสมาราม (วัดพระนอน) เพื่อสักการะพระพุทธไสยยาสน์ อายุ 1,300 ปี
หลังจากนั้น คณะผู้เข้าประกวดและสื่อมวลชน เดินทางไปเยี่ยมชมสินค้าที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรม ภาคที่ 6 พร้อมชมการสาธิตการซั่วหมี่โคราช ตำโคราช พร้อมร่วมทดลองทำอาหารพื้นเมือง ช่วงบ่ายวันเดียวกัน คณะกองประกวดนางสาวไทยไปชมการสาธิตการทำเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน พร้อมร่วมทดลองปั้นเครื่องปั้นดินเผา
ไฮไลต์สำหรับกิจกรรมในวันที่สองของการเก็บตัว ได้แก่ การเดินแฟชั่นผ้าไหมโคราชในงานเทศกาลไหมโคราช อำเภอปักธงชัย โดยผู้เข้าประกวดนางสาวไทย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ที่มาร่วมชมงาน
ฟ้าใส ปวีณสุดา แซ่ตั่น ผู้เข้าประกวดลูกครึ่งไทย-แคนาดา ซึ่งมีความสูงมากที่สุดในการประกวดครั้งนี้ โดยมีความสูงถึง 178 ซม. หนึ่งในความฝันสำหรับการทำงานในวงการบันเทิงของเธอคือการเป็นนางแบบ และเธอเคยได้รับรางวัลรองอันดับสองจากเวที Miss Thailand Chinese Cosmos 2013 ฟ้าใสรู้สึกประทับใจอย่างมากกับชุดผ้าไหมไทยในแฟชั่นโชว์ครั้งนี้
"ปกติชอบดูแฟชั่นค่ะ พอดูเยอะ เห็นผ้าทั่วๆ ไปจนเริ่มรู้สึกว่าธรรมดา แต่พอมาเจอชุดผ้าไหมไทยที่นำมาดีไซน์ทันสมัยแบบนี้ รู้สึกว่าเป็นผ้าที่สามารถออกแบบตัดเย็บได้สวยจริงๆ แบบนี้ขายชาวต่างชาติได้แน่ๆ และถ้ามีโอกาสก็อยากใส่ชุดแบบนี้อีกค่ะ"
มิ้นต์ ลพัฏร์ฐิดา คงกระพันธ์ ผู้เข้าประกวดอายุน้อยที่สุดด้วยวัยเพียง 18 ปี ปัจจุบันศึกษาในชั้นปีที่ 1 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยความสูง 175 ซม. มิ้นต์จึงเป็นอีกคนที่ฝันอยากเป็นนางแบบ และเธอเคยร่วมเวที Thai Super Model มิ้นต์จึงรู้สึกดีใจที่มีโอกาสได้เดินแฟชั่นในกิจกรรมการเก็บตัวผู้เข้าประกวดนางสาวไทยในครั้งนี้
“ดีที่เคยมีประสบการณ์เดินแบบมาบ้างทำให้รู้สึกมั่นใจ แต่พอเป็นการเดินแบบสำหรับเวทีนางสาวไทยก็ต้องเพิ่มความเป็นไทยโดยปรับให้ดูอ่อนช้อยมากขึ้น และโชคดีที่ชุดที่ใส่เป็นชุดเท่ๆ พี่ทางห้องเสื้อบอกให้โพสต์นิ่งๆ และเดินทะมัดทะแมงได้นิดหน่อยค่ะ”
ประทับใจประสบการณ์-มิตรภาพจากวันเก็บตัว
ในวันสุดท้ายของกิจกรรมการเก็บตัว ผู้เข้าประกวดเดินทางไปยังสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ เพื่อเยี่ยมชมทีมฟุตบอลสวาทแคท โดยผู้เข้าประกวดได้ร่วมการเตะฟุตบอลเข้าประตูอย่างสนุกสนาน พร้อมถ่ายภาพในสนามฟุตบอล จากนั้นเดินทางต่อไปยังปราสาทหินพิมาย อำเภอพิมาย และวัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด โดยมีนายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา นายอำเภอด่านขุนทดและคณะกรรมการวัดบ้านไร่ คอยต้อนรับ ผู้เข้าประกวดได้กราบรูปหล่อเหมือนหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ซึ่งตั้งด้านหน้ากุฏิ ก่อนเดินชมทัศนียภาพและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ภายในบริเวณวัด พร้อมถ่ายภาพบริเวณหน้าทางเข้าหอเทพวิทยาคม เฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา (อาคารปริสุทปัญญา) ที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ
ตุ๊กติ๊ก กัญญาณัฐ ไชยโกษี ผู้เข้าประกวดจากจังหวัดอุดรธานี สำเร็จการศึกษาจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปัจจุบันรับงานอิสระด้านพิธีกร ดีเจและพริตตี้ กล่าวถึงกิจกรรมการเก็บตัวในครั้งนี้ว่า รู้สึกสนุกมากที่ได้ทำกิจกรรมหลากหลาย และประทับใจการต้อนรับของชาวโคราช
“มาครั้งนี้ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นดารา ทุกคนต้อนรับเราในฐานะคนพิเศษ ยิ่งพอบอกว่าเป็นคนอุดรฯ และพูดภาษาอีสานกับประชาชนที่มาต้อนรับ ทุกคนก็เอ็นดูและบอกว่าจะช่วยเชียร์คนอีสานด้วยกันค่ะ”
ส่วน แอม ดุษฎี อารีทาน ผู้เข้าประกวดจากจังหวัดสงขลา เพิ่งเรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เคยผ่านเวทีการประกวดหลายแห่งจากภาคใต้ แต่กิจกรรมการเก็บตัวในเวทีนางสาวไทยสนุกที่สุด และสิ่งสำคัญที่สุดที่เธอได้รับก็คือมิตรภาพ
“นอกจากได้ไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญหลายแห่งของโคราชแล้ว การร่วมกิจกรรมและได้ใช้เวลากับเพื่อนๆ ตลอด 3 วัน ทำให้รู้สึกอบอุ่นเหมือนเราได้มาเที่ยวหรือมาทัศนศึกษาด้วยกันค่ะ แทบจะลืมไปเลยว่ามาประกวดนางงาม”
หลังจากเดินทางกลับจากการเก็บตัวในครั้งนี้ ผู้เข้าประกวดทั้ง 18 จะขึ้นเวทีเพื่อแสดงความสามารถพิเศษในวันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม 2556 ที่ บมจ.อสมท ส่วนการประกวดรอบสื่อมวลชน จัดขึ้นในวันพุธที่ 18 ธันวาคม 2556 เวลา 12.30-15.30 น. และการประกวดรอบตัดสิน วันที่ 19 ธันวาคม 2556 เวลา 16.00-21.00 น. ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ ซอยรางน้ำ