กลุ่มบริษัทเอไอจี ประเทศไทย ร่วมกับชมรมคนห่วงหัวในมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดตัวโครงการ “30 บาทรักษาทุกหัว” มอบหมวกกันน็อกและรณรงค์การใช้หมวกกันน็อกสำหรับเด็กไทยที่โดยสารรถจักรยานยนต์เป็นประจำ
มร.โรนัลด์ ฮิวดอน ประธานกลุ่มบริษัทเอไอจี ประเทศไทย ร่วมกับ นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ประกาศเปิดตัวโครงการ “30 บาทรักษาทุกหัว”โครงการใหม่ล่าสุดของชมรมคนห่วงหัวในมูลนิธิเมาไม่ขับ ที่มีเป้าหมายเพื่อลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนนของประเทศไทย ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยการเชิญชวนผู้ปกครองที่มีบุตรหลานและนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์แต่ไม่ได้มีการจัดหาหมวกกันน็อกไว้ให้สวมใส่ สามารถเข้าร่วมโครงการได้โดยจ่ายเงินมัดจำเพียง 30 บาท และรับหมวกกันน็อกไปใช้ เงินจำนวนดังกล่าวจะเป็นเงินมัดจำและทางมูลนิธิเมาไม่ขับจะคืนให้เมื่อผู้ปกครองนำหมวกที่ชำรุดหรือไม่ได้มีการใช้งานแล้วมาส่งคืน
มร.โรนัลด์ ฮิวดอนเปิดเผยว่า “เอไอจีทั่วโลก มีนโยบายในการร่วมดูแลสังคมชุมชนที่เอไอจีมีส่วนอยู่ด้วย ภายใต้แนวคิด “Make the world a safer place” หรือ “สร้างสรรค์โลกให้ปลอดภัยกว่าเดิม” โดยเน้นที่กิจกรรมสามด้านคือ ส่งเสริมความปลอดภัย (Safety) ส่งเสริมความมั่นคง (Security) และช่วยเยียวยาเมื่อมีภัย (Disaster Relief) สำหรับในประเทศไทย รายงานจากองค์กรอนามัยโลก (WHO) ชี้ชัดว่าในปีที่ผ่านมามีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนสูงถึง 38.1 คนต่อประชากร 1 แสนคน นับว่าสูงเป็นอันดับสามของโลก เมื่อผนวกกับผลการวิจัยของมูลนิธิเมาไม่ขับที่พบว่าเด็กไทยที่เดินทางไปโรงเรียนโดยรถจักรยานยนต์มีการสวมหมวกกันน็อกในอัตราเพียง 7 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งทำให้เห็นว่าความปลอดภัยของเด็กๆเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน และเราในฐานะผู้ใหญ่ที่เห็นความเป็นไปของสถิติเช่นนี้ต้องร่วมมือกันอย่าปล่อยให้ภัยเงียบนี้ดำเนินต่อไป ประมาณการคร่าวๆ ได้ว่าในแต่ละวัน มีเด็กไทยในระบบการศึกษาเฉพาะขั้นต่ำกว่ามัธยมทั่วประเทศกว่า 2.3 ล้านคน จาก 6.7 ล้านคน เดินทางไปโรงเรียนโดยรถจักรยานยนต์แต่ไม่สวมหมวกกันน็อก สภาพการณ์เช่นนี้นับว่าเป็นระเบิดเวลาทางสังคมที่ต้องช่วยกันยับยั้งโดยด่วน อีกทั้งเราต้องไม่ปล่อยให้เด็กๆเหล่านี้เติบโตขึ้นไปและเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ใส่ใจกับการใช้หมวกกันน็อก มิเช่นนั้น การรณณรงค์ของมูลนิธิเมาไม่ขับตลอดจนภาคส่วนต่างๆมากมายเช่นไร ก็คงลดอัตราการเสียชีวิตบนท้องถนนของประเทศไทยลงได้ยาก”
ทางด้าน นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยอีกว่า “ทั่วประเทศไทยเรา มีการใช้รถจักรยานยนต์กว่า 23 ล้านคัน แต่ผลการสำรวจโดยมูลนิธิไทยโรดส์และเครือข่ายเฝ้าระวังสถานการณ์ความปลอดภัยทางถนน (Road Safety Watch) พบว่ามีผู้สวมใส่หมวกกันน๊อกเพียง 43 เปอร์เซ็นต์ ส่วนรายงานของโรงพยาบาลเครือข่ายเฝ้าระวังการบาดเจ็บระดับชาติ กระทรวงสาธารณสุขก็พบว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้ได้รับบาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เป็นผู้ที่ไม่ใส่หมวกกันน็อก และสถิติเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีมีสถิติหัวน็อกพิ้นสูงถึงปีละกว่า 5,000 ราย ด้วยสถิติดังกล่าวจึงเป็นที่มาของโครงการ “30 บาทรักษาทุกหัว” ที่มุ่งเป้าไปที่การรณรงค์เพื่อให้มีและสวมใส่หมวกกันน็อกของเด็กนักเรียนทั่วประเทศ โดยในขั้นต้นนี้กลุ่มบริษัท เอไอจี ประเทศไทยได้ร่วมนำร่องเป็นรายแรกโดยการบริจาคหมวกกว่า 4,000 ใบโดยมีการเปิดตัวไปในวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมาที่ศูนย์การค้าฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิตและได้รับความสนใจและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ทางมูลนิธิเมาไม่ขับและเอไอจี ได้หารือกันและมีแผนจะแนะนำโครงการนี้ต่อไปในเร็วๆนี้อีกครั้งหนึ่ง”
“เอไอจี ขอขอบคุณ มูลนิธิเมาไม่ขับ ชมรมคนห่วงหัว ที่ให้เราได้ร่วมคิดร่วมสนับสนุนโครงการ “ 30 บาทรักษาทุกหัว” และผมต้องขอขอบคุณศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คที่ให้การสนับสนุนสถานที่จัดงาน ผมเชื่อและหวังว่าโครงการที่ดีและมีส่วนสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของสังคมเช่นนี้ จะมีผู้เห็นความสำคัญและมาร่วมกันให้การสนับสนุนแก่ ชมรมคนห่วงหัว ในมูลนิธิเมาไม่ขับอย่างต่อเนื่อง ผมขอเรียนว่า เราต้องช่วยกันเพราะสังคมไทยต้องใช้เงินกว่า 3 พันล้านบาทเพื่อที่จะให้เด็กไทย 2.3 ล้านคน ได้มีหมวกกันน็อกสวมใส่ไปโรงเรียนทุกวัน และครบทุกคน” มร. โรนัลด์ ฮิวดอน กล่าวปิดท้าย