ในโอกาสนี้ ยังได้มีการจัดแสดงละครเพลง เรื่อง “ก่อนดอกไม้จะบาน The Musical” นำแสดงโดย น้ำผึ้ง-ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ ร่วมคณะนักแสดงหลากหลาย ที่สร้างสรรค์เพื่อบุคลากรทางการศึกษาได้ชม และนำไปประยุกต์ใช้งานการเรียนการสอน
นับเป็นครั้งแรก!!! ของดาราสาวหน้าหวาน น้ำผึ้ง-ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ นักแสดงเจ้าบทบาทจากละครดัง มงกุฎดอกส้ม และที่กำลังจะออนแอร์อย่าง รากบุญ 2 ยอมเคลียร์คิวทองซุ่มฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อร่วมแสดงนำในละครเพลงสุดอลังการ เรื่อง “ก่อนดอกไม้จะบาน The Musical” กับบทบาทครูสาวผู้ทุ่มเททั้งหัวใจ เพื่อให้ลูกศิษย์รักการเรียนและเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต
ละครเพลงเนื้อหาสร้างสรรค์เรื่องเยี่ยมนี้ นับได้ว่าเป็นที่ถูกอก ถูกใจ “สาวน้ำผึ้ง” ถึงกับรับเล่นแทบจะทันที เพราะเห็นว่า โครงเรื่องมีความทันสมัย สอดแทรกปรัชญาให้ขบคิดแบบไม่ยัดเยียด ที่สำคัญมีความสนุกจนผู้ชมเผลอซึมซับโดยไม่รู้ตัว
“จะบอกว่าเป็นละครเพลงเรื่องแรกที่ผึ้งได้มีโอกาสเล่นก็คงจะไม่ผิด อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่ผึ้งรับบทเป็นคุณครูอีกด้วย ซึ่งตอนแรกที่ได้รับบทมา ผึ้งอ่านรวดเดียวจบ แล้วรู้สึกว่าถูกอกถูกใจมากๆ เพราะโครงเรื่องมีความทันสมัย แถมยังสอดแทรกปรัชญาให้ขบคิดตลอดทั้งเรื่อง ผึ้งเชื่อว่าทุกคนที่มีโอกาสได้ชมรวมถึงคุณครูทั้งหลาย คงจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานการเรียนการสอนได้อย่างแน่นอน” ดาราเจ้าบทบาท กล่าว
สำหรับละครเพลง เรื่อง “ก่อนดอกไม้จะบาน The Musical” เป็นกิจกรรมการสาธิตการเรียนการสอนประกอบละครร้องบนเวที เพื่อพัฒนาการด้านการศึกษาที่ดี “ต้องอาศัยความใส่ใจของครูเป็นหลัก” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการมอบหนังสือชุด “นิทานอาเซียนแสนสนุกสองภาษา (Billingual ASEAN Series) ผนวก กิจกรรมบูรณาการ”
ทางด้าน นายอาทร เตชะธาดา กรรมการผู้จัดการสำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น ได้กล่าวว่า ทางเจ้าภาพได้ใช้งบประมาณกว่า 8 ล้านบาท ในการจัดทำหนังสือนิทานชุด 2 ภาษา ที่เหมาะแก่เด็กปฐมวัย ซึ่งนอกจากจะมีพิธีมอบหนังสือแล้วนั้น ภายในงานยังมีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนการสอน อาทิ นิทรรศการความคืบหน้าของงานมหานครแห่งการอ่าน ดำเนินงานโดย กทม. และอบรมกลวิธีการเล่านิทาน ให้แก่ ครู บรรณารักษ์ และบุคลากรด้านการศึกษาทุกท่าน
“จุดประสงค์สำคัญของโครงการนี้คือ เพื่อส่งเสริมและเตรียมความพร้อมด้านภาษาอังกฤษให้แก่เยาวชนไทย ตลอดจนครูและบรรณารักษ์ไทยให้เข้มแข็ง ก้าวทันโลกยุค AEC ครับ” อาทร กล่าว
กรุงเทพมหานคร ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองหนังสือโลกในปี ๒๕๕๖ (Bangkok World Book Capital 2013) จากคณะกรรมการตัดสินเมืองหนังสือโลก ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนจาก สมาคมผู้จัดพิมพ์นานาชาติ (International Publishers Association-IPA) สหพันธ์ผู้จำหน่ายหนังสือนานาชาติ (International Booksellers Federation-IBF) สหพันธ์สมาคมและสถาบันห้องสมุดนานาชาติ (International Federation of Library Associations and Institutions-IFLA) และองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ด้วยเหตุผลที่ว่า “...กรุงเทพมหานครแสดงความมุ่งมั่น ที่จะผนึกกำลังทั้งผู้มีส่วนได้เสียในวงการหนังสือ และภาคส่วนอื่นๆ เข้ามาร่วมมือกันอย่างหลากหลาย พัฒนาโครงการ ที่มุ่งประโยชน์ชุมชน และมีพันธสัญญาในระดับสูงที่จะผลักดันกิจกรรมต่างๆ ที่เสนอไว้อย่างจริงจัง...” และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นในการที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับโครงการฯอยู่ในพระราชูปถัมภ์
กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการตามแผนงานตามภารกิจที่ได้นำเสนอต่อคณะกรรมการคัดเลือกเมืองหนังสือโลก การส่งเสริมการอ่านในเด็กและเยาวชน เป็นพันธกิจหลักเพื่อสร้างรากฐานและวัฒนธรรมการอ่านให้เกิดขึ้น ให้กับเด็กและเยาวชนมีนิสัยรักการอ่าน เพื่อสร้างทรัพยากรที่มีคุณภาพของประเทศชาติต่อไป