ดร.สมบัติ คุรุพันธุ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสสนับสนุนเยาวชนไทยที่มีความสามารถ และศักยภาพทางด้านการเต้น เข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างประเทศในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาตนเอง และเพิ่มพูนประสบการณ์ทางด้านศิลปะการเต้นได้อย่างดี และนำศิลปะการเต้นมาเป็นสื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างไทย-สิงค์โปร์ ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญอันจะช่วยพัฒนาวงการศิลปะการเต้นของไทยให้เจริญก้าวหน้าต่อไป”
คุณวัลลภา ปัจฉิมสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสถาบันบางกอกแดนซ์ เปิดเผยว่า “สถาบันบางกอกแดนซ์ส่งเสริม และสนับสนุนเยาวชนผู้ที่รักการเต้นมาโดยตลอด ซึ่งการแสดงครั้งนี้เป็นความร่วมมือของ 2 ประเทศด้านการแสดงศิลปะการเต้นเเป็นครั้งแรก ที่บางกอกแดนซ์ได้รับเกียรติจากสถาบันเช็งบัลเล่ต์ ประเทศสิงค์โปร์ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน และยังส่งเสริมเยาวชนไทยให้มีการพัฒนาตนเองด้านการเต้นหลากหลายประเภท การทำงานร่วมกับผู้อื่น และชนชาติอื่นร่วมกัน เป็นสิ่งที่ท้าทายเยาวชนนักเต้นของเรา โดยสถาบันฯ ได้นำเสนอการแสดงของผู้ที่ได้รับรางวัลทั้งเยาวชนไทยและสิงค์โปร์ ที่มีความสวยงาม และโดดเด่นในความสามารถเฉพาะตัวของนักเต้นทุกคน ภายใต้แนวคิดการแสดงที่ผู้ชมจะได้รับอรรถรสหลากหลายจากการแสดงทั้งสองชาติร่วมกัน”
ทั้งนี้ ในปี 2557 สถาบันฯ C.S.T.D.จะจัดการแข่งขันศิลปะการเต้นภายในประเทศไทย เพื่อคัดเลือกเยาวชนที่มีความสามารถด้านการเต้นและเตรียมความพร้อมสู่การแข่งขันระดับนานาชาติ และในปี 2558 สถาบันบางกอกแดนซ์จะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยต้อนรับมิตรประเทศจากกลุ่ม AEC และประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค เป็นเจ้าภาพ ครั้งที่ 3 ในการจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ Asia-Pacific Dance Competition ครั้งที่ 17 อีกด้วย
ด้าน มิสเตอร์เช็ง เซี่ยนฝ่า (Mr. Cheng Hsienfa) ผู้ก่อตั้งสถาบันเช็งบัลเล่ต์ (Cheng Ballet Academy) ผู้ออกแบบท่าเต้น และอาจารย์สอนศิลปะการเต้นของสถาบันเช็งบัลเล่ต์ ประเทศสิงค์โปร์ กล่าวว่า “สถาบันเช็งบัลเล่ต์มีประเพณีเป็นประจำทุกปี ในการจัดแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านศิลปะการเต้นร่วมกับมิตรประเทศต่างๆ ซึ่งปีนี้สถาบันฯ ได้รับเชิญจากสถาบันบางกอกแดนซ์ ประเทศไทย ในการแลกเปลี่ยนผ่านการแสดงรูปแบบของบัลเล่ต์คลาสสิค (Classical Ballet) และบัลเล่ต์ร่วมสมัย (Classical-Based Contemporary Dance) ซึ่งการแสดงครั้งนี้แตกต่างจากทั่วไป โดยจะนำเสนอผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ แบบเดี่ยวของ Junior Company และคณะเต้นจากการแข่งขันระดับนานาชาติ ซึ่งจะเป็นการแสดงที่หลากหลายของเยาวชนนักเต้นที่มีคุณภาพ และทางสถาบันฯ ได้ใช้ระยะเวลามากกว่า 3 เดือน ในการเตรียมพร้อมสำหรับการแสดงครั้งนี้ โดยได้รับผลตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากการแสดงครั้งนี้ และหวังว่าในอนาคตอันใกล้จะมีกิจกรรม หรือการแสดงร่วมกับทางสถาบันบางกอกแดนซ์อีกเช่นกัน”
การแสดงศิลปะการเต้นระหว่างประเทศไทย-สิงค์โปร์ ภายใต้ชื่อ “Harmony of Dance” ได้จบลงอย่างสวยงาม พร้อมเสียงปรบมือดังกึกก้องส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์