ธุรกิจห้าดาวต่างประเทศ ตั้งเป้าเติบโต 25-30% ต่อปี วางกลยุทธ์เชิงรุก เน้นตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค

ศุกร์ ๐๓ มกราคม ๒๐๑๔ ๑๓:๑๔
นายซานจีฟ แพนท์ รองกรรมการผู้จัดการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ในรอบปีที่ผ่านมาถือว่า ธุรกิจห้าดาวที่เข้าไปทำตลาดในต่างประเทศ ได้แก่ อินเดีย เวียดนาม พม่า บังกลาเทศ กัมพูชา ลาว จีน และ มาเลเซีย ถือว่าได้รับการตอบรับอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน อินเดีย และ เวียดนาม ถือว่าสามารถขยายโมเดลธุรกิจเกินเป้าที่ตั้งไว้ จากการตอบรับอย่างดีของผู้บริโภค และ ผู้ที่สนใจทำธุรกิจร่วมกับห้าดาว คาดว่าอีก 5 ปีข้างหน้าตลาดอินเดียและเวียดนาม จะสามารถขยายเป็นประเทศละ 1,000 สาขา พร้อมการเติบโตเฉลี่ยปีละ 25-30%

“ต้องถือว่าจากจุดเริ่มต้นของธุรกิจห้าดาวอินเดียเมื่อปลายปีที่แล้ว ที่ตั้งเป้าไว้ 50 สาขา แต่ด้วยการตอบรับที่ดีของผู้บริโภคและผู้สนใจทำธุรกิจร่วมกับเรา ทำให้ปัจจุบันธุรกิจห้าดาวที่ดำเนินการในรูปแบบ “Quick Service Restaurant” (QSR) ในเมืองบังกาลอร์ และ เชนไน สามารถขยายถึง 75 สาขา เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยคิดเป็นสัดส่วนของผู้ที่มาลงทุนทำธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ 75% และ ธุรกิจที่เราดูแลเอง 25% โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการควบคุมคุณภาพสินค้าตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ให้คำปรึกษาในการทำตลาดและให้บริการลูกค้า รวมถึงการขนส่งและพัฒนาด้านR&D ทำให้บริษัทฯสามารถควบคุมคุณภาพของแบรนด์ สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค”

สำหรับปี 2014 ธุรกิจห้าดาวอินเดียตั้งเป้าขยายให้ครบ 250 สาขา เพราะจัดเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตอีกมาก จากจำนวนประชากรที่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยวางแผนขยายถึง 1,000 สาขา ภายใน 5 ปี โดยจะเข้าไปทำตลาดในหัวเมืองใหญ่ๆของอินเดีย 10-12 เมือง ครอบคลุมประชากรกว่า 100 ล้านคน โดยกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ยังคงเป็น วัยรุ่น และ วัยทำงานเริ่มต้น

ในส่วนของธุรกิจห้าดาวเวียดนาม มีการปรับเปลี่ยนโมเดลทางธุรกิจ เพื่อสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค โดยปรับให้เป็นรูปแบบพรีเมี่ยมคีออส มีพื้นที่ให้บริการมากขึ้น มีการตกแต่งร้าน เน้นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีอยู่ 200 สาขา ตั้งเป้าว่าในปี 2014 จะขยายถึง 350 สาขา และ เพิ่มเป็น 1,000 สาขา อีก 5 ปีข้างหน้า และ เกือบ 100% เป็นโมเดลธุรกิจแบบ แฟรนไชส์

ซีพีเอฟ ยึดมั่นในหลักปรัชญา 3 ประโยชน์ ในการดำเนินธุรกิจ คือ ต้องเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และ บริษัท ฉะนั้น การทำธุรกิจของห้าดาวในต่างประเทศ นอกจากจะถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีในฐานะผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมอาหารแล้ว ยังช่วยสร้างงานสร้างอาชีพแก่ประชาชนในประเทศนั้นๆอีกด้วย สำหรับธุรกิจห้าดาวในต่างประเทศยังถือเป็นช่วงเริ่มต้นของธุรกิจ ซึ่งยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยจะเน้นการพัฒนาแบรนด์ให้เข้มแข็งควบคู่กับการทำตลาดเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ เพื่อก้าวสู่วิสัยทัศน์ “ครัวของโลก” อย่างแท้จริง.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๐๗ ทีทีบี ครองธนาคารไทยคะแนนสูงสุดด้าน ESG ต่อเนื่องปีที่ 6 ตอกย้ำความสำเร็จบนเส้นทางสู่ การธนาคารเพื่อความยั่งยืน
๑๓:๔๐ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่องหนุน กนง. คงดอกเบี้ยนโยบาย
๑๓:๒๕ หมอนรองกระดูกเสื่อม สาเหตุปวดร้าวลงขา
๑๒:๕๖ กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ มองเศรษฐกิจโลก 2025 ฟื้นตัว แม้มีปัจจัยเสี่ยง ชี้ตราสารหนี้และหุ้นยังคุ้มค่าท่ามกลางความผันผวน
๑๒:๒๗ Thailand Privilege Card จับมือ ASAVA ปรับโฉมยูนิฟอร์มด้านบริการ ภายใต้คอนเซปต์ GRACE สะท้อนอัตลักษณ์ไทยร่วมสมัยสู่สากล
๑๑:๐๔ เครือสหพัฒน์ จัดสัมมนาเสริมบทบาทคณะกรรมการ ESG เดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน
๑๑:๒๖ กสิกรไทยส่งบริการมัดใจตลาดเวียดนาม กวาด 2 รางวัลใหญ่ ระดับนานาชาติ สุดยอดบัตรเครดิตใหม่และสุดยอดธนาคารแห่งใหม่เพื่อเอสเอ็มอีออนไลน์
๑๑:๕๙ 'พฤกษา' ตอกย้ำผู้นำด้านอสังหาฯ ผนึกความเชี่ยวชาญด้านการอยู่อาศัย สู่การสร้างชุมชนสุขภาพดี มอบสิทธิพิเศษ และโครงการดูแลสุขภาพลูกบ้านตลอดปี
๑๑:๒๓ TFG ติดปีก! ปี 67 กำไรพุ่งแตะ 3,143.81 ลบ. เพิ่มขึ้น 486.93%
๑๑:๑๖ SO ตอบแทนผู้ถือหุ้นโดยจ่ายปันผล 85% ของกำไร หรือ 0.18 บาท/หุ้น กวาดกำไรปี 67 กว่า 153 ล้านบาท