ผู้ว่าฯ อภิรักษ์ตรวจเยี่ยมตลาดนัดจตุจักร มอบนโยบายพัฒนาอย่างยั่งยืน

อังคาร ๑๕ มีนาคม ๒๐๐๕ ๑๐:๔๑
กรุงเทพฯ--15 มี.ค.--กทม.
เมื่อวันที่(13 มี.ค.48) นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามนโยบายการบริหารงานตลาดนัดจตุจักร ณ ที่ทำการกองอำนวยการตลาดนัดจตุจักร โดยมี คุณหญิงณฐนนท ทวีสิน ปลัดกรุงเทพมหานคร นายสุกิจ ก้องธรนินทร์ เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายประสาน บำรุงพันธุ์ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย นายวินิจ สุรพงษ์ชัย ประธานคณะกรรมการควบคุมการจัดการตลาดนัดกรุงเทพมหานคร (กนก.) รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการตลาดนัด ผู้บริหารตลาดนัดจตุจักร นายประเสริฐ ทองนุ่น ผู้อำนวยการเขตจตุจักร และผู้เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและร่วมประชุม
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า หลังจากที่ได้แต่งตั้งนายวินิจ สุรพงษ์ชัย เป็นประธานคณะกรรมการควบคุมการจัดการตลาดนัดกรุงเทพมหานคร (กนก.) และมอบหมายให้รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการตลาดนัดจตุจักร ในครั้งนี้ตนได้มาตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของตลาดนัดจตุจักร และประชุมร่วมกับคณะกรรมการตลาดนัดจตุจักร เพื่อรับทราบปัญหาอุปสรรค และติดตาม ผลการดำเนินงาน เพื่อกำหนดนโยบายปรับปรุงคุณภาพของตลาดนัดจตุจักร ทั้งด้านความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย การจราจร รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มผู้ค้าในตลาดนัดฯ
ทั้งนี้จากการประชุมร่วม นายอภิรักษ์ฯ ได้มอบนโยบายให้ผู้บริหารตลาดนัดจตุจักรจัดกลุ่มแบ่งโซนพื้นที่ขายสินค้าให้ชัดเจน รวมทั้งจัดทำป้ายสัญลักษณ์บ่งบอกว่ากลุ่มโซนใดจำหน่ายสินค้าประเภทใด ติดตั้งป้ายบอกทางสัญจรภายในตลาดนัดฯ ตลอดจนให้จัดตั้งซุ้มประชาสัมพันธ์ติดต่อสอบถามภายในพื้นที่ตลาดนัดฯ และให้ประสานหน่วยงานรอบพื้นที่ตลาดนัด เช่น สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีรถไฟฟ้า BTS จัดตั้งซุ้มเพื่อให้คำแนะนำแก่ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่จะมาใช้บริการตลาดนัดฯ นอกจากนี้ยังให้จัดสร้างห้องสุขาและสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมให้เพียงพอต่อความต้องการใช้งานของประชาชนจำนวนมากที่มาใช้บริการตลาดนัดฯ รวมทั้งจัดสร้างจุดพักผ่อนให้ร่มรื่นสวยงามและกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมของตลาดนัดฯ และให้ประสานงานกับการประปานครหลวง และสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อสำรวจและติดตั้งประปาหัวแดง ซักซ้อมการป้องกันและระงับอัคคีภัย ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ เพราะอาจส่งผลเสียหายร้ายแรงได้เนื่องจากภายในตลาดนัดมีประชาชนมาให้บริการเป็นจำนวนมาก รวมทั้งประสานสำนักอนามัยเพื่อควบคุมดูแลด้านการสุขาภิบาลอาหารที่จำหน่ายภายในตลาดนัดฯ ด้วย
นอกจากนี้ให้ปรับปรุงระบบการจราจรรอบตลาดนัด โดยจัดหาที่จอดรถสำหรับผู้มาใช้บริการตลาดนัดเพิ่มเติม เพราะแม้ว่าปัจจุบันตลาดนัดจตุจักรได้เช่าพื้นที่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์เพื่อเป็นที่จอดรถผู้มาใช้บริการตลาดนัดฯ ซึ่งสามารถรองรับรถได้ประมาณ 1,400 คัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ จึงมอบให้ผู้บริหารตลาดนัดฯประสานกับกรมการขนส่งทางบกเพื่อขอใช้สถานที่ภายในกรมฯ ซึ่งอยู่ตรงข้ามตลาดนัดฯ เป็นที่จอดรถในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุดราชการของกรมฯ เพื่อให้สามารถรองรับรถผู้จะมาใช้บริการอีกได้ประมาณ 2,000 คัน รวมทั้งจะมอบหมายให้นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หารือร่วมกับ ผู้บริหารตลาดนัดฯ สำนักการจราจรและขนส่ง สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาการจราจรรอบตลาดนัดอย่างเป็นระบบ อาทิ การจัดจุดจอดรถแท็กซี่ และรถบริการขนส่งอื่นๆ ซึ่งจะเป็นการป้องกันและบรรเทาปัญหาการจราจรบนท้องถนนรอบตลาดนัดฯ และส่วนเกี่ยวเนื่องโดยรอบ
อย่างไรก็ดีสำหรับปัญหาเรื่องสัญญาเช่าพื้นที่ระหว่างกรุงเทพมหานครกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งจะหมดอายุประมาณปี 2555 ทำให้ผู้ค้ารวมทั้งประชาชนที่มาใช้บริการตลาดนัดรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง ตนจะหารือร่วมกับการรถไฟฯ เพื่อขอขยายเวลาเช่าต่อไปเนื่องจากตลาดนัดจตุจักรถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเทพมหานคร และสัญลักษณ์ของประเทศไทย เพราะเป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ตลาดนัดกรุงเทพมหานคร เริ่มจัดขึ้นที่บริเวณท้องสนามหลวง มีชื่อเรียกว่า "ตลาดนัดสนามหลวง" ต่อมาในปี พ.ศ.2521 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้มอบที่ดินย่านพหลโยธินตอนต่อจากสวนจตุจักรด้านทิศใต้ให้แก่กรุงเทพมหานคร เพื่อใช้ในกิจการ สาธารณประโยชน์ จำนวน 74 .57 ไร่ ซึ่งกรุงเทพมหานครได้นำมาพัฒนาเป็นตลาดนัด โดยสามารถดำเนินการย้ายผู้ค้าจากสนามหลวงมายังสถานที่ดังกล่าวได้สำเร็จเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2525 และใช้ชื่อว่า ตลาดนัดย่านพหลโยธิน ต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ตลาดนัดจตุจักร ตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นมา ปัจจุบันมีจำนวนผู้ค้าในตลาดนัดจตุจักรประมาณ 5,600 คน มีจำนวนแผงค้า 8,817 แผง แบ่งเป็น 26 โครงการ มีสินค้าจำหน่าย 8 ประเภท ได้แก่ 1. ผัก และผลไม้ 2. เสื้อผ้า 3. สัตว์เลี้ยง 4. ต้นไม้ 5. อาหารปรุง 6. อาหารสำเร็จรูป 7. อาหารสด และ8.เบ็ดเตล็ด--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ