สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านวาง 8 ยุทธศาสตร์หลัก เร่งพัฒนารูปแบบใหม่ของการให้บริการ “รับสร้างบ้าน ไม่เพียงแค่รับสร้างบ้าน”

จันทร์ ๑๓ มกราคม ๒๐๑๔ ๑๐:๕๐
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านวาง 8 ยุทธศาสตร์ผลักตลาดรับสร้างบ้านเติบโตแบบยั่งยืน พร้อมรองรับการเปิด AEC เน้นการพัฒนาองค์กรจากภายในสู่ภายนอกมุ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กร และมาตรฐานความเป็นมืออาชีพ มั่นใจระยะยาวผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุด ขณะที่มูลค่ารวมตลาดรับสร้างบ้านปี 57 คาดการณ์เติบโต 7% คิดเป็นมูลค่ารวม 11,500 ล้านบาท เผยปัญหาแรงงาน เศรษฐกิจ และการเมืองยังเป็นปัจจัยกดดันการเติบโตของธุรกิจรับสร้างบ้าน

นายวิสิฐษ์ โมไนยพงศ์ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้วางยุทธศาสตร์สำหรับธุรกิจรับสร้างบ้านในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยการวาง 8 ยุทธศาสตร์หลัก เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนและรองรับการเปิดเสรีของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ซึ่งประกอบไปด้วย 1.ด้านการเงิน เน้นการใช้งบประมาณที่มุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพของสมาชิกเพื่อให้สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2.ด้านการขยายฐานธุรกิจ โดยการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องโดยผ่านกลยุทธ์ใน 2 รูปแบบ คือ 1.Supply Chain ด้วยการพัฒนาความร่วมมือกับผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และ 2. Synergy กับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น จัดหาที่ดิน , ตกแต่งภายใน , เครื่องใช้ไฟฟ้า , เครื่องปรับอากาศ , สระว่ายน้ำ ฯ ด้วยการสร้างรูปแบบการให้บริการขึ้นมาใหม่ ให้กับผู้บริโภค เพื่อง่ายต่อการวางแผนสร้างบ้านที่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบครบวงจรมากขึ้น 3.ด้านการขยายฐานสมาชิก มุ่งเน้นการเพิ่มจำนวนสมาชิกของสมาคมฯโดยยังรักษาเกณฑ์มาตรฐานในการคัดกรองสมาชิกเช่นเดิม เพื่อเพิ่มมูลค่าตลาดรวมของธุรกิจให้เพิ่มสูงขึ้น 4.การพัฒนาความร่วมมือกับสถาบันการเงิน เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแช่งขัน และอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภค โดยการผลักดันสินเชื่อใน รูปแบบใหม่ เฉพาะสำหรับกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านโดยตรง ซึ่งจะมีความครบวงจรและรองรับกับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมากยิ่งขึ้น 5.การยกระดับการให้บริการสู่มาตรฐานสากล โดยการมุ่งผลักดันให้สมาชิกของสมาคมฯ เข้าสู่ระบบมาตรฐาน ISO 9001 ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้แล้วยังจะเป็นการเตรียมการเพื่อรองรับการแข่งขันในระดับอาเซียนหลังการเปิดการค้าเสรีของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 6.เพิ่มศักยภาพและสร้างภูมิคุ้มกันทางธุรกิจ โดยการจัดตั้งทีมงานพิเศษเพื่อทำการเฝ้าระวังภัยคุกคามต่างๆ และศึกษาวิจัยผลกระทบต่าง ๆ ทางธุรกิจ เพื่อให้สมาชิกสมาคมฯ สามารถที่จะเตรียมตั้งรับกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที 7.การสร้างองค์การให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ (KM) โดยการจัดรวบรวมองค์ความรู้ใหม่รวมถึงความรู้เดิมอย่างเป็นระบบ และการต่อยอดในการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ ในธุรกิจรับสร้างบ้านให้เพิ่มขึ้น โดยการจัดตั้งห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสมาชิกสามารถเข้าถึงข้อมูลได้สะดวกและนำไปใช้ในการประกอบการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจในรูปแบบต่าง ๆ ได้ 8.การพัฒนาทางด้านบุคลากร โดยเร่งสร้าง บุคลลากรทั้งในส่วนที่ยังคงศึกษา และจบการศึกษาแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของ สถาปนิก วิศวกร และผู้ควบคุมงาน โดยการสร้างความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาเพื่อออกแบบหลักสูตรสำหรับบุคคลากรในวงการรับสร้างบ้านโดยเฉพาะ

“เป้าหมายดังกล่าวของสมาคมฯ มุ่งตอบสนองไปยังสมาชิกสมาคมฯ และผู้บริโภคเป็นหลัก ซึ่งจะเห็นได้ว่าเมื่อมีการพัฒนาในส่วนของภายในองค์กรให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้นเพียงใด ก็จะยิ่งส่งผลไปสู่ภาพรวมภายนอกมากขึ้นเท่านั้น สุดท้ายแล้วทุกฝ่ายก็จะได้รับประโยชน์ร่วมกัน ทั้งในส่วนของธุรกิจรับสร้างบ้านที่จะเติบโตเพิ่มขึ้น บริษัทรับสร้างบ้านก็สามารถขยายงาน และขยายธุรกิจได้เพิ่มขึ้น ในส่วนของผู้บริโภคเองก็จะได้รับบริการที่มีคุณภาพมาตรฐานและครบถ้วนทุกเรื่องเกี่ยวกับบ้านมากยิ่งขึ้นเช่นกัน ในรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “รับสร้างบ้าน ไม่เพียงแค่รับสร้างบ้าน” นายวิสิฐษ์ กล่าว

นายวิสิฐษ์ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของเป้าหมายตลาดรวมของธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2557 นั้นคาดว่ามูลค่าตลาดรวมของธุรกิจรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลน่าจะอยู่ที่ประมาณ 11,500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นมูลค่าตลาดรวมเฉพาะกลุ่มสมาชิกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านรวม 7,500 ล้านบาท และกลุ่มรับสร้างบ้านอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในสมาคมฯ อีก 4,000 ล้านบาท เทียบกับปี 2556 ที่มีมูลค่าตลาดรวม 10,700 ล้านบาท แบ่งเป็นสมาชิกสมาคมฯ 7,100 ล้านบาท และกลุ่มรับสร้างบ้านอื่น ๆ 3,600 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ประมาณ 7% โดยธุรกิจรับสร้างบ้านยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ตั้งแต่ปี 2556 และคาดว่าจะส่งผลกระทบมาถึงปี 2557 ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการขาดแคลนแรงงาน , ต้นทุนแรงงานและวัสดุที่ปรับตัวสูงขึ้น , รวมถึงผลกระทบทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ทำให้การเติบโตทางธุรกิจชะลอตัวลง ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมาก็ได้มีความพยายามที่จะร่วมมือกับภาครัฐในด้านต่าง ๆ แต่เนื่องจากนโยบายภาครัฐที่ไม่สนองตอบธุรกิจ ส่งผลให้การแก้ปัญญาหาด้านแรงงานที่คาดว่าจะยังคงไม่ชัดเจนต่อไป ขณะเดียวกันในส่วนของภาพรวมของเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัวมาตั้งแต่ปีที่แล้วก็ยังคงส่งผลกระทบมาถึงในปีนี้ซึ่งจะเป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตลาดภาพรวมไม่น่าจะขยายตัวมากนัก และในส่วนของสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจนส่งผลถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในการที่จะปลูกสร้างบ้านด้วยเช่นกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version