นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) บริษัทอีเว้นท์อันดับ 7 ของโลก 3 ปีซ้อน รับรองจากสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า “สืบเนื่องจากการเติบโตของประเทศเมียนมาร์อย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมา อัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) โตขึ้นถึง 6.5% และมีอัตราการลงทุนในประเทศเมียนมาร์ เพิ่มขึ้นอย่างสูง จากการเปิดประเทศของเมียนมาร์ ทำให้ทั้งภาวะเศรษฐกิจ การเมือง และประชาชนอยู่ในระหว่างการปรับตัว ทั้งตัวของนักลงทุนทั้งภาคเอกชน และภาคธุรกิจของเมียนมาร์เปิดรับสิ่งใหม่ๆ เรียนรู้วิธีการ หรือ Know How ต่างๆ จากต่างประเทศ และยังเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยโอกาสทางธุรกิจมากมาย ซึ่งแนวคิดในการขยายตลาดไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคนี้ อินเด็กซ์ฯ ได้มีการวางแผนเป็นยุทธศาสตร์ระยะยาว เพื่อการเติบโตทางธุรกิจในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะเมียนม่าร์อย่างยั่งยืน
การเข้าไปยึดตลาดก่อน ถือว่าเป็นการสร้างความได้เปรียบ ทั้งในแง่ของการสร้างการยอมรับในฐานะที่เป็นผู้บุกเบิกตลาด ที่วางรากฐานอย่างมั่นคง แต่อินเด็กซ์ฯ ยังมองเกมส์อนาคต ที่ไม่ใช่การวางแผนเฉพาะการเติบโตที่เป็นในลักษณะการรับจ้างจัดงานอีเว้นท์เท่านั้น การสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจกับนักลงทุน และหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมถึงนักลงทุนทั้งไทยและเมียนมาร์ ก็เป็นอีกกลยุทธของอินเด็กซ์ฯ จนทำให้ เมียนมาร์ อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ หรือ เอ็มไอซีวี (MICV) เป็นที่ยอมรับ และสร้างชื่อเสียงในเมียนม่าร์ จนได้รับโอกาสให้ทำงานให้กับภาครัฐ ทั้งไทยและพม่าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแบรนด์ระดับโลก (Global brand) อาทิ โคคา โคล่า และชไนเดอร์ เป็นต้น
“อินเด็กซ์ฯ เน้นให้ความสำคัญกับการลงทุนในเมียนมาร์เป็นพิเศษ โดยวางรากฐานของธุรกิจที่สามารถตอบโจทย์ทุกมิติของการทำการตลาดภายใต้แนวคิดสร้างสรรค์ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ในปี 2557 นี้ อินเด็กซ์ฯ วางยุทธศาสตร์ 5 เกมส์รุก นั่นคือ
1. งานด้านอีเว้นท์มาร์เก็ตติ้ง (Event Marketing) ด้วยประสบการณ์ความเป็นมืออาชีพเฉพาะด้าน ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่การรับจัดงานให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของลูกค้าเท่านั้น ยังต่อยอดด้วยการวางกลยุทธ์ทางการตลาด รวมถึงดูแลในเรื่องการสื่อสาร และประชาสัมพันธ์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย โดยมีบริษัท เมียนมาร์ อินเด็กซ์ครีเอทีฟ วิลเลจ หรือ เอ็มไอซีวี (MICV) รวมถึง ฟอเอฟเวอร์ อีเว้นท์ โซลูชั่น หรือ เอฟอีวีเอส (FEVS) ดูแลสร้างสรรค์งาน
2. งานด้านการจัดเฟสทีฟ อีเว้นท์ (Festive Event) คือ การสร้างสรรค์งานที่เกิดจากแนวคิดของ บริษัท เอ็มไอซีวี (MICV) เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ สร้างประวัติศาสตร์ การจัดงานในเทศกาลต่างๆ ของเมียนมาร์ ให้มีความเป็นสากลมากขึ้น อาทิ งานฉลองขึ้นปีใหม่ (Myanmar Countdown) เทศกาลสงกรานต์ (Summer Festival) เทศกาลฤดูหนาว (Winter Festival) เป็นต้น
3. งานด้านการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคผ่านงานวิจัย (Consumer insight: Research) โดยบริษัทในเครือ คือ เอ็นไวโรเซล (ไทยแลนด์) ที่สำรวจพฤติกรรมการบริโภค เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน ในการศึกษาข้อมูลตลาดเมียนม่าร์ ที่มีความเข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง และต่อเนื่อง ซึ่งได้มี เอ็นไวโรเซล ไทยแลนด์ (Envirosel Thailand) ได้เข้าไปบุกตลาดทำงานวิจัยใน 3 หัวเมือง มาแล้ว
4. การสร้างช่องทางในการสื่อสารแบบผสมผสาน (Integrated media platform) นั่นคือ การเตรียมการสร้างแพลตฟอร์มการสื่อสาร เพื่อเข้าถึงชาวเมียนมาร์โดยทั่วไป ที่อินเด็กซ์ฯ วางเป้าหมายเพื่อสื่อสารกับชาวเมียนมาร์โดยทั่วไป ในรูปแบบแมส มีเดีย ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินงาน
5. การจัดงานแฟร์ และเอ็กซิบิชั่นทุกรูปแบบ (Professional Exhibition Organizer) ด้วยการก่อตั้ง บริษัท ไอซีเว็กซ์ จำกัด (ICVeX Company Limited) ที่นับว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อยอด และเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ด้านอื่นๆ ของอินเด็กซ์ฯ โดยได้มืออาชีพ ที่มีความเชี่ยวชาญชำนาญงานในด้านการจัดงานแฟร์ และเอ็กซิบิชั่น คุณนุชรินทร์ ภารดีวิสุทธิ์ มาดูแลรับผิดชอบ ไอซีเว็กซ์ (ICVeX) เพื่อรองรับตลาดภาคธุรกิจสู่ธุรกิจ หรือ B to B และ ภาคธุรกิจสู่กลุ่มผู้บริโภค หรือ B to C อย่างมืออาชีพ
น.ส. นุชรินทร์ ภารดีวิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอซีเว็กซ์ จำกัด (ICVeX) กล่าวว่า “ด้วยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ และรายย่อย ต่างมองหาช่องทางการตลาด แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นบุกตลาดเมียนมาร์โดยวิธีใด งานแสดงสินค้า หรืองานแฟร์ ถือได้ว่าเป็นอีกช่องทางที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน โดย ไอซีเว็กซ์ (ICVeX) จะให้บริการในด้านการบริหารจัดการงานแสดงสินค้า เพื่อรองรับการเติบโตในหลากหลายอุตสาหกรรมที่จะมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งในปีหน้า 2557 ทางไอซีเว็กซ์ได้มีการจัดเตรียมงานแสดงสินค้าสำหรับธุรกิจต่างๆ 6 ประเภท
1. งานมหกรรมยานยนตร์และอุปกรณ์รถยนต์ (Myanmar Auto Plus, Automobile & Auto Salon) ในช่วงเดือนตุลาคม
2. งานมหกรรมครบเครื่องเรื่องโรงแรม ร้านอาหาร และการจัดเลี้ยง (Myanmar HoReCa (Hotel-Restaurant-Catering)) ในช่วงเดือนกรกฎาคม
3. งานเทศการอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติ (Myanmar International Food & Beverage) ในช่วงเดือนกรกฎาคม
4. งานมหกรรมความรู้และการศึกษา (Myanmar International Education Fair (MIE)) ในช่วงเดือนสิงหาคม
5. งานเพื่อสุขภาพ อาหารและยา (Myanmar MediHealth & Wellness) ในช่วงเดือนสิงหาคม
6. งานมหกรรมการที่อยู่อาศัยและของแต่งบ้าน (Myanmar Architect & Décor) ในช่วงเดือนกันยายน
“โดยจุดแข็งของ ไอซีเว็กซ์ (ICVeX) ไม่เพียงแต่มีความพร้อมทั้งในเรื่องของการบริหารจัดการงานเทรดแฟร์ เท่านั้น แต่ด้วยศักยภาพของบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมถึงความแข็งแกร่งของพันธมิตรทางธุรกิจ ที่มีความพร้อมในเรื่องของการตลาด การวางกลยุทธ์การสื่อสาร และการประชาสัมพันธ์งาน โดยคาดการณ์ว่าในปีแรก จะมีรายได้ประมาณ 100 ล้านบาท โดยวางกลุ่มเป้าหมายเอ็กซิบิเตอร์ เน้นหนักไปที่นักลงทุน หรือธุรกิจจากไทย 80% และนักลงทุนต่างชาติ 20% ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นสะพานเชื่อมธุรกิจไทยสู่อาเซียนเท่านั้น แต่ยังเป็นการนำเม็ดเงินรายได้กลับคืนสู่ภาคธุรกิจไทยอีกด้วย และเชื่อว่า ไอซีเว็กซ์ (ICVeX) จะเติบโต และรองรับความต้องการของตลาดเมียนมาร์ได้อย่างสมบูรณ์ โดยสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของไอซีเว็กซ์เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.icvex.com” น.ส. นุชรินทร์ ภารดีวิสุทธิ์ กล่าว
“จาก 5 ยุทธศาสตร์ ในการวางรากฐาน สร้างเครือข่ายโดยวางรากฐานของธุรกิจ ในตลาดพม่า ภายใต้แนวคิดสร้างสรรค์ ของอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ในการเป็นผู้นำตลาดพม่า ทางบริษัทฯ มีความมั่นใจว่า อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จะสามารถตอบโจทย์ ความต้องการของนักธุรกิจ ทั้งไทย และต่างประเทศ ที่ต้องการเปิดตลาดพม่า และอินเด็กซ์ฯ จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการเป็นสะพานเชื่อมทุกธุรกิจที่ต้องการเข้าสู่ตลาดพม่าอย่างมืออาชีพแบบง่ายดาย” นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน กล่าวทิ้งท้าย