พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ เสด็จทอดพระเนตรการดำเนินงาน "มุมนมแม่" ของ บริษัท สยาม เด็นโซ่ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ที่จัดทำขึ้นเพื่อสนองพระปณิธาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร ที่ทรงมุ่งหวังให้สถาบันครอบครัวในสังคมไทยเกิดความรักและความอบอุ่น โดยให้มีการดูแลสตรีมีคุณภาพตั้งแต่ระยะตั้งครรภ์ คลอดบุตร และการเลี้ยงดูเด็กอย่างถูกต้อง โดยเริ่มต้นจากการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และสนับสนุนให้สถานที่ทำงานจัดปัจจัยที่เอื้อให้พนักงานเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างต่อเนื่อง โดยการจัดมุมนมแม่ และทรงดำริให้ มุมนมแม่ คือหนึ่งในกิจกรรมสายใยรักแห่งครอบครัว
เมื่อวันอังคารที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จทอดพระเนตรการดำเนินงาน “มุมนมแม่สานสายใยรักแห่งครอบครัว” ของ บริษัท สยาม เด็นโซ่ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ผลิตหัวฉีดจ่ายน้ำมัน เชื้อเพลิง แห่งแรกของประเทศไทย ณ อาคารสำนักงาน บริษัท สยาม เด็นโซ่ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ตำบลบ้านเก่า อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่พนักงานหญิงที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และที่กำลังวางแผนจะมีบุตรในอนาคต ให้สามารถเลี้ยงลูกได้อย่างต่อเนื่อง อันจะนำไปสู่ความมั่นคงเข้มแข็งของสถาบันครอบครัวไทย
โดย “มุมนมแม่สานสายใยรักแห่งครอบครัว” ของ บริษัท สยาม เด็นโซ่ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด จัดทำขึ้นตามโครงการในพระราชดำริและสนองพระปณิธานของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ เพื่อส่งเสริมให้มารดาเลี้ยงลูกด้วยนมของตนเอง รวมทั้งมีสถานที่ในการให้นมบุตรอย่างเหมาะสม โดยมุ่งหวังให้สถาบันครอบครัวอบอุ่น มีการดูแลสตรีอย่างมีคุณภาพ ตั้งแต่ระยะตั้งครรภ์ คลอดบุตร และการเลี้ยงดูเด็กอย่างถูกต้อง โดยบริษัทฯได้จัดทำโครงการมุมนมแม่ ตั้งแต่ปี 2550 โดยจัดพื้นที่ดังกล่าว ไว้ในห้องพยาบาล พร้อมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์ในการบีบน้ำนม เช่น ถุงเก็บน้ำนมแม่ เครื่องบีบนม และตู้แช่น้ำนมไว้ให้พนักงาน นอกจากนี้ยังมีพยาบาลให้คำแนะนำคุณแม่ที่มารับบริการตลอดเวลา
สำหรับ บริษัท สยาม เด็นโซ่ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เป็นบริษัทผู้ผลิตหัวฉีดจ่ายน้ำมัน เชื้อเพลิงแห่งแรกของประเทศไทย โดยเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้ข้อบังคับ EU บริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดตั้ง “มุมนมแม่สานสายใยรักแห่งครอบครัว” มาตั้งแต่ พ.ศ. 2550 จนถึงปัจจุบัน ตามนโยบายด้านอาชีวะอนามัย และความตระหนักถึงความสำคัญของ “นมแม่” พร้อมเล็งเห็นถึงความไม่สะดวกในการบีบเก็บน้ำนมของกลุ่มพนักงานหญิงหลังคลอดบุตร ซึ่ง “มุมนมแม่” ของ บริษัทฯ ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรม Happy Family ภายใต้ โครงการ Happy work place ที่บูรณาการกิจกรรมต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และยึดถือเป็นสวัสดิการแก่พนักงานทุกคนในบริษัท โดยได้รับการสนับสนุนจาก มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย และ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน
ตลอดระยะเวลา 7 ปี ของการดำเนินงาน “มุมนมแม่สานสายใยรักแห่งครอบครัว” บริษัทฯ ได้ส่งเสริมสนับสนุน กิจกรรมต่างๆ อาทิ การเตรียมความพร้อมเป็นคุณแม่ การอบรมให้ความรู้เรื่องนมแม่แก่พนักงานตั้งครรภ์ ตรวจเต้านมและตรวจครรภ์โดยพยาบาลประจำบริษัท กิจกรรมพี่สอนน้อง กิจกรรมโภชนาการสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ จัดเมนูบำรุงน้ำนม ในโรงอาหาร กิจกรรมเยี่ยมแม่หลังคลอด กิจกรรมเพื่อนช่วยเพื่อน เป็นการสนับสนุนช่วยเหลือกันภายในกลุ่ม เช่น การแบ่งปันนม แบ่งปันสมุนไพร การช่วยเมื่อเกิดอุทกภัย เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และความสัมพันธ์อันดีภายในกลุ่มคุณแม่
โดยมีกิจกรรมที่โดดเด่นมุ่งเน้นการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของบริษัทฯ คือ “กิจกรรมส่งนมกลับต่างจังหวัด” โดยรถยนต์ของบริษัทฯ ซึ่งแนวทางการสนับสนุนและส่งเสริมนี้จะช่วยให้บุตรของพนักงานที่ต้องกลับมาทำงานเมื่อครบกำหนดการลาคลอด สามารถได้รับน้ำนมแม่อย่างต่อเนื่องจนครบ 6 เดือน หรือมากกว่านั้น ที่สอดคล้องกับพระดำริของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ที่ทรงสนับสนุนให้แม่ทำงานมีโอกาสเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ต่อเนื่อง
สำหรับผลการดำเนินงาน “มุมนมแม่สานสายใยรักแห่งครอบครัว” ปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกใช้บริการมุมนมแม่ 127 คน พนักงานทุกคนเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ นานกว่า 6 เดือน คิดเป็น 100 % ของจำนวนพนักงานที่มาใช้บริการ และในจำนวนดังกล่าวฯ มีพนักงานที่ให้นมแม่มากกว่า 1 ปี ถึง 18 คน โดยบริษัทมีพนักงานตั้งครรภ์ คิดเป็นร้อยละ 8.35 ของพนักงานวัยเจริญพันธุ์ทั้งหมด 1,809 คน และได้กำหนดเป้าหมายในปี 2558 บริษัทจะส่งเสริมให้พนักงานเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน และให้นมแม่พร้อมอาหารตามวัย ถึง 2 ขวบ หรือมากกว่านั้น ทุกๆคน
ผลจากการดำเนินงานดังกล่าวฯ ทำให้ บริษัท สยาม เด็นโซ่ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ได้รับประทานโล่ “มุมนมแม่ต้นแบบในสถานประกอบกิจการ” จาก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2552 และยังคงดำเนินการโครงการดังกล่าวต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
นายยูคิฮิโระ คาโต้ ประธานบริษัท สยามเด็นโซ่ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด กล่าวถึงเป้าหมายการจัดโครงการมุมนมแม่สานสายใยรักแห่งครอบครัวว่า เพื่อเป็นการคลายความทุกข์ ความกังวลใจของพนักงานที่เป็นแม่ทุกคนที่ต้องมาทำงานทุกวัน ทำให้ไม่สามารถอยู่ดูแลให้นมลูกน้อยได้ตลอดเวลา“บริษัทฯ จึงได้จัดสร้างมุมนมแม่ขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้พนักงานได้ทำหน้าที่แม่ที่ดีได้คือสามารถมาปั้มนมบีบเก็บ นำกลับไปให้ลูกได้ และยังมุ่งหวังให้เด็กๆ เจริญเติบโตแข็งแรง จากการได้ดื่มนมแม่ มีอนาคตที่สดใจ และบริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะรักษามุมนมแม่สานสายใยรักแห่งครอบครัวไว้ เพื่อให้พนักงานที่อยู่ในช่วงให้นมบุตรทุกคนได้ใช้ตลอดไป” นายยูคิฮิโระกล่าว
ด้านตัวแทนพนักงานเข้าร่วมโครงการ นางสาวมนัสชนก ใสกุล ได้กล่าวถึงความรู้สึกต่อการเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมของตนเองว่า มีภาคภูมิใจที่สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ นานถึง 3 ปี นางสาวมะลิ คำชาวนา ที่สามารถกระตุ้นน้ำนมได้มากขึ้นโดยใช้สมุนไพร และนำมาบอกต่อกับเพื่อนๆ นางสาวรจนา ศรีสม ที่กล่าวว่าน้ำนมแม่ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้ลูกได้มีสุขภาพแข็งแรง นางสาววรรณวิสา วราวุฒิ ที่ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาด้านเต้านม แต่เมื่อมีความตั้งใจ ทุกคนก็สามารถที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้สำเร็จ
ทางด้าน แพทย์หญิงยุพยง แห่งเชาวนิช เลขาธิการมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้ร่วมกันส่งเสริมให้มีการจัดตั้งมุมนมแม่ในสถานประกอบกิจการแล้วจำนวน 1025 แห่งทั่วประเทศ และมีเป้าหมายขยายเพิ่มอีก 106 แห่ง ภายในปี 2557 จึงขอเชิญชวนสถานประกอบกิจการที่มีลักษณะ “เป็นสำนักงาน” หรือ “โรงงาน” เข้าร่วม โครงการจัดตั้งมุมนมแม่ ในปัจจุบันมีพนักงาน มีความสนใจที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากขึ้น แต่ยังขาดการสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม ทางมูลนิธิศูนย์นมแม่ฯ มีความยินดีให้คำแนะนำและสนับสนุนชุดสื่อความรู้การจัดตั้งมุมนมแม่ในที่ทำงาน
สถานประกอบกิจการที่สนใจสามารถสอบรายได้ละเอียดได้ที่
มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย โทรศัพท์ 0–2354–8404 มือถือ 08–1831-2202
และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซด์ www.thaibreastfeeding.org
หรือกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน โทรศัพท์ 0-2245 – 6774