นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เผยว่า การชุมนุมประท้วงของประชาชนและบรรยากาศทางการเมืองในพื้นที่กทม. ยืดเยื้อมากว่า 3 เดือน และไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าจะยุติลงเมื่อไร ขณะนี้เริ่มส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอสังหาฯ และรับสร้างบ้าน ทั้งในแง่จำนวนผู้บริโภคที่สนใจจะเลือกซื้อ-สร้างบ้านที่ลดลงอย่างมาก รวมทั้งการตัดสินใจลงทุนเรื่องสร้างบ้านหรือที่อยู่อาศัยหลังใหม่ ของผู้บริโภคในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลมีแนวโน้มชะลอตัวจนถึงครึ่งปีแรก ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องหาทางปรับตัว เพื่อรับมือกับกำลังซื้อที่หดตัวแรง
ในส่วนของบริษัทฯ เองก็ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวเช่นกัน โดยจำนวนลูกค้าใหม่ที่เข้ามาติดต่อ และยอดขายของสาขาที่ตั้งอยู่ในกทม.และปริมณฑลลดลงเกือบครึ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้น บริษัทฯ จึงปรับตัวด้วยการหันมาเลือกใช้สื่อท้องถิ่น และจัดกิจกรรมทางการตลาดในต่างจังหวัดมากขึ้น เพื่อสามารถเข้าถึงและสร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น เช่น การโร้ดโชว์หรือออกบูธตามห้างสรรพสินค้าเเละโมเดิร์นเทรด การติดตั้งป้ายโฆษณาริมทาง เคเบิ้ลและวิทยุท้องถิ่น ฯลฯ เป็นต้น รวมทั้งการขยายสาขาในต่างจังหวัด ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าจะเปิดสาขาอีก 10 แห่ง หวังเจาะกำลังซื้อในพื้นที่ตลาดใหม่ๆ เพื่อมาชดเชยกับตลาดเดิมที่ชะลอตัว โดยบริษัทฯ จะเน้นเปิดสาขาใหม่ทางภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสาน เนื่องเพราะการเมืองมีผลกระทบกับพื้นที่ดังกล่าวน้อยมาก
สำหรับภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านปี 2557 นี้ นายพิศาล แสดงความเห็นว่า คงต้องแยกพิจารณาออกเป็น 2 ตลาดหลักๆ คือ 1. ตลาดรับสร้างบ้านในกรุงเทพฯและปริมณฑล และ 2. ตลาดรับสร้างบ้านต่างจังหวัด ซึ่งในส่วนของตลาดต่างจังหวัดนั้นขยายตัวมาตลอดในระยะหลายปีที่ผ่านมา และเชื่อว่าปีนี้จะยังเติบโตได้ต่อเนื่อง เพราะความต้องการที่อยู่อาศัยหรือฐานตลาดรับสร้างบ้าน ขยายตัวตามทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาค ขณะที่ตลาดรับสร้างบ้านในกทม.และปริมณฑล มีโอกาสชะลอตัวสูงจากผลกระทบทางการเมืองในปัจจุบัน และอาจจะยืดเยื้อจนถึงครึ่งปีแรก ฉะนั้น หากผู้ประกอบการส่วนใหญ่สามารถปรับตัวโดยมุ่งขยายสู่ตลาดใหม่ หรือเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ได้มากขึ้นก็มีโอกาสที่ตลาดรับสร้างบ้านจะขยายตัว แต่หากไม่มีการปรับตัวก็เชื่อว่ามูลค่าตลาดรวมรับสร้างบ้านปีนี้ คาดว่าจะปรับตัวลดลงหรืออย่างดีก็แค่ทรงตัว อย่างไรก็ดี สถานการณ์เช่นนี้คงต้องประเมินกับแบบเดือนต่อเดือนอีกครั้ง
ปีนี้บริษัทฯ จะเน้นแข่งขันและทำกิจกรรมทางตลาดในต่างจังหวัดมากกว่าทุกๆ ปี ปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขาให้บริการรวม 38 สาขา แบ่งเป็นต่างจังหวัด 31 สาขา กรุงเทพฯและปริมณฑล 7 สาขา ภายใต้แบรนด์พีดีเฮ้าส์และเอคิวโฮม โดยเร็วๆ นี้เตรียมเปิดศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ สาขาสุพรรณบุรี เป็นสาขาที่ 39 เพื่อขยายฐานตลาดและเจาะกลุ่มลูกค้าภาคกลางเพิ่มมากขึ้น ตามแผนการตลาดและเป้ายอดขายที่ตั้งไว้ 2 พันล้านบาท และเนื่องในโอกาสเทศกาลตรุษจีนปีนี้ บริษัทฯ ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้าที่จองสร้างบ้านในต่างจังหวัด ทุกท่านจะได้รับ “ม้าทองคำ” หนัก 2-10 บาท นายพิศาล กล่าวทิ้งท้าย