บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย นำโดย นางพรนิภา หาชัยภูมิ กรรมการและผู้จัดการ ร่วมกับ รองศาสตราจารย์ นพ. นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนความรู้การศึกษาหรือวิจัยร่วมกัน เพื่อการพัฒนาเครื่องมือทางการเงิน(Financial Instrument) สำหรับใช้ในการบริหารสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการนำกระบวนการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (Securitization) มาใช้ในการบริหารต้นทุนทางการเงิน ในวันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557 ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
นางพรนิภา หาชัยภูมิ กรรมการและผู้จัดการ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (บตท.) กล่าวว่า "การลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน ระหว่าง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย ในวันนี้ นับเป็นความร่วมมือเพื่อนำนวัตกรรมการเงิน ผนวกกับระบบการศึกษา เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนโดยใช้เครื่องมือการเงิน ด้วยการนำกระบวนการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ หรือ "Securitization" นำมาบริหารสินทรัพย์และต้นทุนทางการเงินให้มีประสิทธิภาพ ตลอดจนการร่วมมือดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกันระหว่างสองหน่วยงาน
บตท. ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงการคลัง ที่มีบทบาทหลักในการระดมทุนเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ เชื่อมโยงระหว่างตลาดทุนมาสู่ตลาดเงิน ทำให้เกิดการพัฒนาและการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ นับเป็นความภาคภูมิใจที่วันนี้ได้รับเกียรติจากทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มอบให้บตท. เป็นผู้ให้คำแนะนำและคำปรึกษาในการระดมทุน เพื่อการสร้างและซ่อมแซมบ้านพักอาศัยสำหรับคณาจารย์ และนักศึกษาตลอดจนการให้ความรู้การทำ Securitization เพื่อสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมชุมชนและสิ่งแวดล้อมร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่"
รองศาสตราจารย์ นพ. นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า "การลงนามนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาเครื่องมือทางการเงินร่วมกัน โดย มช. และ บตท. จะร่วมกันกำหนดแนวทางความร่วมมือ เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ร่วมกันดังนี้
1. เพื่อร่วมกันดำเนินกิจกรรมทางวิชาการ ในการแลกเปลี่ยนความรู้ การศึกษา หรือวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาเครื่องมือทางการเงินร่วมกัน
2. เพื่อพัฒนาศักยภาพและความรู้ของบุคลากรทั้งสองฝ่าย ตลอดจนส่งเสริมให้นิสิต นักศึกษาและผู้สนใจมีความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาเครื่องมือทางการเงิน
3. เพื่อให้เกิดความร่วมมือทางวิชาการ และการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม(Corporate Social Responsibility) อย่างเป็นระบบและรูปธรรม
มช. และ บตท. จะร่วมกันจัดแนวทางการให้ความร่วมมือ ดังนี้
1. จะร่วมกันกำหนดขอบเขตการศึกษาและวิธีการศึกษาหรือวิจัยร่วมกัน เกี่ยวกับการพัฒนาเครื่องมือทางการเงิน ตลอดจนแลกเปลี่ยนความรู้หรือการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และสรุปผลการศึกษา
2. จะร่วมกันสนับสนุน ส่งเสริม และเผยแพร่ให้นิสิต นักศึกษาและบุคลากรของตนเข้าร่วมศึกษา วิจัย แลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกันอย่างเป็นประจำ และจัดให้มีกิจกรรมเวทีอภิปรายหรือสัมมนาทางวิชาการ กิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม(Corporate Social Responsibility) ตลอดจนจัดทำโครงการฝึกอบรม ศึกษาดูงาน หรือฝึกปฏิบัติงานในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3. จะประสานงานร่วมกันในการอาศัยทรัพยากรของทั้งสองฝ่าย ได้แก่ ทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญหรือทรัพยากรอื่นๆ เช่น ข้อมูล ข้อสนเทศ สถานที่ ตลอดจนอำนวยความสะดวกต่างๆ
4. จะประสานงานร่วมกันในการจัดกิจกรรมร่วมกันในด่านการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผลงานต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามบันทึกข้อตกลงนี้
5. ในการดำเนินกิจกรรมที่จะจัดให้มีขั้นตามบันทึกข้อตกลงนี้ ทั้งมหาวิทยาลัย และ บตท. จะเจรจาร่วมกันเพื่อกำหนดรายละเอียด หน้าที่ ความรับผิดชอบ ร่วมทั้งงบประมาณและค่าใช้จ่ายต่างๆ ในแต่ละกิจกรรมต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจากดร. สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและอดีตปลัดกระทรวงการคลัง รองอธิการบดีฝ่ายแผนงานและพัฒนา รองอธิการบดีฝ่ายบริหารการเงินและทรัพย์สิน รศ.ดร. สิริวุฒิ บูรณพิร คณบดีคณะบริหารธุรกิจ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุจรรย์พินธ์ สุวรรณพันธ์ หัวหน้าภาควิชาการเงินและการธนาคาร คณะบริหารธุรกิจ ผู้อำนวยการสำนักงานหอพักนักศึกษา ผู้อำนวยการกองคลัง มาร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามวันนี้ การลงนามในครั้งนี้ จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะนำไปสู่ความร่วมมือทางวิชาการต่างๆ ระหว่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัยในอนาคต"
นางอัญชุลี สิมะเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ สายการเงิน บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวเสริมว่า "สำหรับโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (Securitization) ตราสารหนี้ประเภท ABS หรือ Asset Backed Securities ระหว่าง บตท. และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัย บ้านพักของคณาจารย์ ข้าราชการ บุคลากร และนักศึกษาให้มีสภาพดี และมีเพียงพอต่อจำนวนผู้ต้องการพักอาศัย อนึ่ง บตท. นั้นทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนและให้คำแนะนำแก่มหาวิทยาลัย ให้สามารถมีเงินทุนนำไปหมุนเวียนเพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยนำรายได้จากค่าเช่า หรือ ค่าบริการ มาเป็นกระแสเงินในการชำระดอกเบี้ยและเงินต้นให้แก่นักลงทุน เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนในระบบการเงินของมหาวิทยาลัยโดยไม่ต้องใช้งบประมาณภาครัฐ โดยบตท. จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการพัฒนาเครื่องมือทางการเงินร่วมกับมหาวิทยาลัย"