นายมนูญรัตน์ เลิศโกมลสุข กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือเอสเอ็มอีแบงก์ แถลงข่าวผลการดำเนินงานธนาคารปี 2556 ว่า มีกำไรสุทธิ 407.44 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นผลงานที่น่าพอใจ เพราะสามารถพลิกฟื้นฐานะการเงินจากที่ปี 2555 ขาดทุนสุทธิ 4,039.31 ล้านบาท ทั้งนี้ เนื่องจากธนาคารสามารถเพิ่มรายได้ดอกเบี้ย และลดรายจ่ายดอกเบี้ยที่เป็นต้นทุนของธนาคารลง รวมถึงการแก้ไขปัญหา NPLs ให้กลับมาเป็นสินเชื่อปกติ ทำให้กลับมาสร้างรายได้ให้กับธนาคารอีกจำนวนหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ ณ 31 ธันวาคม 2556 ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้าง 93,475 ล้านบาท ลดลงจาก 96,797 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2555 ซึ่งเป็นผลจากธนาคารมุ่งเน้นปล่อยกู้ SMEs รายย่อยวงเงินต่ำกว่า 15 ล้านบาท ตามนโยบายกระทรวงการคลัง และมีปริมาณลูกค้า Refinance ออกไปมากกว่าปกติจากผลของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้เหมาะสมกับต้นทุนของธนาคาร โดยมีการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบจากสินเชื่อทุกประเภท เป็นเงิน 26,573 ล้านบาท แต่หากนับเฉพาะสินเชื่อเบิกจ่ายใหม่ในปี 2556 มีจำนวน 19,524 ล้านบาท
สำหรับการแก้ไขปัญหา NPLs ในปี 2556 สามารถแก้หนี้ NPLs เป็นจำนวน 9,480 ล้านบาท ทำให้ ณ สิ้น ปี 2556 ธนาคารมียอด NPLs เท่ากับ 31,539 ล้านบาท หรือคิดเป็น 33.74% ของยอดสินเชื่อคงค้าง ซึ่งเมื่อบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท มาบริหารหนี้ NPLs ประมาณ 2,000 ล้านบาท จะทำให้ยอด NPLs คงเหลือสุทธิ เท่ากับ 29,539 ล้านบาท หรือคิดเป็น 31.60% ของยอดสินเชื่อคงค้าง
กรรมการผู้จัดการ เอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวถึงแผนงานปี 2557 ว่า ธนาคารกำหนดยุทธศาสตร์หลักการขยายสินเชื่อคุณภาพรักษาฐานลูกค้าและป้องกันหนี้ตกชั้นเป็น NPLs โดยตั้งเป้ายอดเบิกจ่าย 27,000 ล้านบาท เงินให้สินเชื่อคงค้างหลังตัดหนี้สูญเท่ากับ 96,475 ล้านบาท หรือขยายตัวประมาณ 5 % และเน้นให้การอนุมัติสินเชื่อรวดเร็วขึ้น ปรับโครงสร้างเงินทุนให้มีความสมดุลมากขึ้น รวมถึงมีการบริหารสภาพคล่องที่มีความเหมาะสมกับการดำเนินธุรกรรมของธนาคาร โดยได้มอบนโยบายให้สาขามีส่วนช่วยในการระดมเงินฝากจากหน่วยงานต่าง ๆ ในท้องถิ่นมากขึ้น