นายเวทย์ นุชเจริญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในเทศกาลวันแห่งความรักในปีนี้ ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำ KTB With Love โดยมีอัตราดอกเบี้ยให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี ระยะเวลาฝาก 60 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ระยะเวลาฝาก 14 เดือน และอัตราดอกเบี้ย 2.8% ต่อปี ระยะเวลาฝาก 5 เดือน ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เงินฝากพิเศษที่ธนาคารออกในช่วงเทศกาลต่างๆ ต่อเนื่องทุกปี ตามวิสัยทัศน์ KTB Growing Together ที่มุ่งมั่นสนับสนุนการเติบโตและความมั่งคั่งแก่ลูกค้าผู้สนใจสามารถเปิดบัญชีได้ทุกสาขากว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศ ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้
นอกจากนี้ ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับลูกค้าข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ คือ สินเชื่อสวัสดิการเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับข้าราชการ ผ่อนชำระแบบขั้นบันได โดยใน 5 ปี แรก ธนาคารให้ผ่อนชำระในแต่ละงวดน้อยกว่าปกติ 5-20% จากเดิมที่ต้องผ่อนชำระเท่ากันทุกเดือน เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้ของผู้กู้ และลูกค้ายังสามารถเลือกผ่อนได้ 3 แบบ คือ แบบ 20 ปี 25 ปี และ 30 ปี โดยให้กู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน เพื่อซื้อที่ดินพร้อมบ้าน ปลูกสร้างบ้าน ปรับปรุงต่อเติมหรือซ่อมแซม ตลอดจนเพื่อไถ่ถอนจากสถาบันการเงินอื่น
นายเวทย์ นุชเจริญ กล่าวต่อไปว่า คาดว่าสินเชื่อดังกล่าวจะได้รับความสนใจจากลูกค้าในวัยหนุ่มสาว เพราะการผ่อนชำระสอดคล้องกับรายได้ของผู้กู้ ทำให้สามารถมีบ้านเป็นของตัวเองได้ง่ายขึ้น โดยแบบอายุสัญญา 20 ปี อัตราการผ่อนชำระต่องวดในปีแรกลดลงจากปกติ 10% ปีที่ 2-3 ลดลง 5% แบบอายุสัญญา 25 ปี อัตราผ่อนชำระต่องวดในปีแรกลดลงจากปกติ 15% ปีที่ 2-3 ลดลง 10% และปีที่ 4-5 ลดลง 5% ส่วนแบบอายุสัญญา 30 ปี อัตราผ่อนชำระต่องวดในปีแรกลดลงจากปกติ 20% ปีที่ 2-3 ลดลง 10% และปีที่ 4-5 ลดลง 5%
สำหรับข่าวลือที่แพร่กระจายอยู่ในโซเชียลมีเดียว่า ธนาคารกรุงไทยได้อนุมัติเงินกู้อเนกประสงค์ในโครงการจำนำข้าวนั้น ธนาคารขอยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง สินเชื่ออเนกประสงค์เป็นสินเชื่อบุคคล ที่ธนาคารให้บริการมากับกลุ่มข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และพนักงานบริษัทเอกชน ที่มีรายได้เงินเดือนประจำมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี สำหรับเสริมสภาพคล่องและใช้จ่ายเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี อย่างไรก็ตาม สำหรับความเดือดร้อนของชาวนานั้น ธนาคารมีความเข้าใจและห่วงใย แต่การปล่อยกู้ต้องเป็นไปตามระเบียบ คำนึงถึงความเสี่ยงในทุกด้าน รวมทั้งต้องไม่ผิดกฎหมาย ที่สำคัญธนาคารยึดมั่นการดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบ คำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่ม เพราะธนาคารเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีผู้ถือหุ้นรายย่อยและสถาบันมากกว่า 45% อยู่ภายใต้การดูแลและกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน