นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยหลังการหารือร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของธนาคารพาณิชย์ไทยและธนาคารต่างประเทศ ประจำครึ่งแรกของปี 2557 ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกว่า ธนาคารพาณิชย์มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาตลาดทุนไทย ส่งเสริมการเข้าถึงการลงทุนของประชาชนผ่านสาขาของธนาคารทั่วประเทศ และมีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้สนับสนุนให้บริษัทหลักทรัพย์และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศให้กว้างขวางขึ้น โดย ก.ล.ต.พร้อมอำนวยความสะดวกในการประสานความร่วมมือเพื่อขจัดอุปสรรคด้านกฎเกณฑ์
ก.ล.ต. เห็นว่าธนาคารพาณิชย์มีบทบาทอย่างมากในการขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินในตลาดทุน จึงได้หารือร่วมกันถึงความสำคัญของการวางแผนการลงทุน โดยส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้แนะนำการลงทุนของธนาคารสามารถแนะนำเบื้องต้น ให้ผู้ลงทุนเข้าใจถึงความสำคัญของการจัดสรรสัดส่วนเงินลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ (asset allocation) และสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสมให้แก่ผู้ลงทุน เพื่อให้มีทรัพย์สินเพียงพอกับการดำรงชีพและมีชีวิตที่ดีในวัยเกษียณอายุ ซึ่งผู้แนะนำการลงทุนทุกคนจะต้องมีความสามารถ
ในการให้บริการดังกล่าวได้ในระยะเวลาประมาณ 2 ปีข้างหน้า ธนาคารพาณิชย์จึงยังมีเวลาเตรียมความพร้อม
ด้านบุคลากร พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ขอให้ธนาคารพาณิชย์ระมัดระวังและควบคุมดูแลการแนะนำการลงทุนแก่ผู้ลงทุน โดยต้องใช้บุคลากรที่เป็นผู้แนะนำการลงทุนที่ได้รับความเห็นชอบเท่านั้น และต้องทำหน้าที่อย่างถูกต้องครบถ้วน เช่น มีการประเมินความสามารถในการรับความเสี่ยงของลูกค้าก่อนที่จะให้คำแนะนำที่เหมาะสม เป็นต้น
ในโอกาสนี้ ก.ล.ต.ได้แจ้งความคืบหน้าในการออกหลักเกณฑ์เพื่ออนุญาตการออกตราสารทางการเงินที่ธนาคารพาณิชย์สามารถนำมาคำนวณเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ตามแนวทางของ Basel IIIโดยเปิดให้เสนอขายตราสารดังกล่าวให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยผ่านสถาบันตัวกลางหรือธนาคารพาณิชย์เสนอขายเองก็ได้ และเนื่องจากตราสารดังกล่าวอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงและซับซ้อนสูงผู้แนะนำการลงทุนต้องเปิดเผยรวมทั้งอธิบายข้อมูลสำคัญให้ผู้สนใจลงทุนเข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุนเช่น ลักษณะและเงื่อนไขของตราสาร ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผลกระทบต่อผู้ลงทุนภายใต้สถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งคาดว่าหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับในช่วงต้นปีนี้
“ธนาคารพาณิชย์มีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนของผู้ลงทุน เนื่องจากมีช่องทางการให้บริการจำนวนมากอยู่ทั่วประเทศ และมีความใกล้ชิดกับประชาชนมาเป็นเวลานาน ก.ล.ต. จึงสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์ให้ความสำคัญกับคุณภาพการบริการและการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการวางแผนการลงทุนเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการให้คำแนะนำในเรื่องการจัดสรรเงินไปลงทุนแก่ลูกค้าอย่างเหมาะสม การประชุมร่วมกันในครั้งนี้ทำให้ ก.ล.ต. มีโอกาสได้รับฟังข้อสังเกตและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา
แนวทางการกำกับดูแล ทั้งเรื่องการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ บทบาทของผู้เสนอขายหลักทรัพย์รวมถึงบทบาทในการเผยแพร่ความรู้ด้านตลาดทุน ในขณะเดียวกันผู้บริหารธนาคารได้ทราบถึงทิศทางและนโยบายในการพัฒนาตลาดทุนของ ก.ล.ต. ในอนาคต และเตรียมความพร้อมในการดำเนินธุรกิจให้สอดรับไปในแนวเดียวกัน” นายวรพล กล่าว